นายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ ADVANC กล่าวว่า ในปี 56 ภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมจะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยส่วนธุรกิจบริการแอร์ไทม์จะเติบโตราว 7% คิดเป็นมูลค่า 2.14 แสนล้านบาท เป็นการใช้งานด้านเสียงโต 2% ส่วนการใช้งานข้อมูลโตมากกว่า 60% ส่วนธุรกิจการจำหน่ายเครื่องคาดเติบโตมากกว่า 15% หรือคิดเป็นมูลค่า 5.2 หมื่นล้านบาทซึ่งมากกว่า 7 ล้านเครื่องจะมาจากการจำหน่ายสมาร์ทโฟน และมากกว่า 1 ล้านเครื่องจะมาจาก Smart Device ประเภทแท็บเล็ต
ด้านนายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ หัวหน้าผู้บริหารด้านการตลาด ADVANC กล่าวว่า เอไอเอสได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเปิดตัวสมาร์ทโฟนคุณภาพที่รองรับ 3G อย่างต่อเนื่องตลอดปี ด้วยแนวคิด"มือถือ 3Gเพื่อคนไทย" ด้วยระดับราคาเพียงหลักพันบาทพร้อมแพ็กเกจการใช้งานสอดรับกับการใช้ชีวิตทุกกลุ่มเป้าหมาย
"เราจะมีเครืองมือถือราคาต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อใช้งาน 3G เราได้ติดต่อไว้หมดแล้ว เพราะต้องการให้ลูกค้ากว่า 30 ล้านรายใช้มือถือที่รองรับโครงข่าย 3G อย่างสมบูรณ์"นายสมชัยกล่าว
รวมทั้งร่วมมือกับกลุ่มผู้มีไอเดียผ่านโครงการ AIS The StartUp ทั้งรูปแบบของการร่วมพัฒนาบริการ ร่วมทุน หรือร่วมเปิดโอกาสใหม่ๆทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบของ Application และ Digital Service ในยุค 3G
นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญการบริการคุณภาพใช้งบประมาณมากกว่า 2 พันล้านบาท ยกระดับช่องทางการส่งมอบบริการและเสริมศักยภาพบุคคลากร ได้แก่ AIS Shop ที่มีการขยายต่อเนื่องและเตรียมเปิดตัว AIS Online Store เต็มรูปแบบในไตรมาสแรก, AIS Call Center ยกระดับเป็น Online Call Center, Telewiz 450 แห่ง และ Telewiz Plus 40 แห่ง ที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์แบะการให้บริการในยุค 3G
ปีนี้เอไอเอสเปิดตัวบริการแห่งโลกดิจิตอล ได้แก่ Calling Post ที่แสดงสถานะเชื่อมต่อจาก social media แบบ Real Time คาดเปิดใช้ ก.พ. 56, My Cloud จะเป็นพื้นที่ดิจิตอลส่วนตัวให้คุณจัดเก็บข้อมูลสำคัญได้ด้วยตัวเอง เปิดบริการ ก.พ.56, AIS Movie Store เป็นการร่วมมือกับสหมงคลฟิล์มและจีทีเอช ที่มีทั้งภาพยนต์ไทยและต่างประเทศ เปิดบริการ ก.พ.56, AIS mPay Master Card ที่คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในไตรมาส 2/56 โดยปีที่แล้ว mPay มีมูลค่าธุรกรรมรวม 3 หมื่นล้านบาท, AIS mPay Rabbit ที่สามารถเติมค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วยบัตร Rabbit ใน AIS Smart Phone และใช้เป้นบัตรผ่านเข้าออก เปิดใข้ไตรมาส 3/56