ทั้งนี้ GSTEEL และ GJS รวมกำลังการผลิต 3.3 ล้านตัน
ส่วนรายได้ปี 56 คาดว่าจะทำได้ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่คาดว่าอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท
ในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุนทั้ง GSTEEL และ บมจ.จีเจ สตีล (GJS) รวมกันจำนวน 3 พันล้านบาท เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ประกอบกับ ได้รับการสนับสนุนจากซัพพลายเออร์จากต่างประเทศ 5-7 ราย ที่จะให้ส่งวัตถุดิบจำนวน 8-9 พันล้านบาท สามารถหมุนเวียนใช้ได้ต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีสต็อกเศษเหล็กอยู่ 2-3 แสนตัน
ด้านนายชาญ บูลกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป(BROOK) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังการขายหุ้นเพิ่มทุนของ 2 บริษัทแล้วจะมีการเจรจาขอลดหนี้ลง จากซัพพลายเออร์และธนาคารพาณิขย์ รวมกัน 2-3 ราย ที่รวมมูลหนี้จำนวน 150 ล้านเหรียญ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 550 ล้านเหรียญ จะเหลือ 400 ล้านเหรียญ คาดว่าจะเจรจาได้เรียบร้อยประมาณกลางปีนี้ และต้นทุนทางการเงินอยู่เฉลี่ย 4-5% จะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทลดลงเหลือ 0.8 เท่าจาก 1 เท่าในปัจจุบัน
จากนั้นจะดำเนินการควบรวมกิจการ GSTEEL และ GJS ให้เสร็จภายในไตรมาส 4/56 เพราะเห็นว่าการควบรวมกิจการด้วยกันจะทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงไม่น้อยกว่า 5-6% และการบริหารไม่เกิดข้อขัดแย้งทั้งการสั่งซื้อและขาย หลังจากนี้แนะนำให้ GSTEEL หาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ถือหุ้น
นายชาญ กล่าวว่า หลังการปร้บโครงสร้างหนี้แล้วมูลค่าทางบัญขีของ GSTEEL อยู่ที่ 0.50 บาท/หุ้นจากป้จจุบันอยู่ที่ 0.35-0.40 บาท/หุ้น ส่วน GJS จะอยู่ที่ 0.16 บาท/หุ้น หลังปรับโครงสร้างหนี้ จากก่อนหน้า 0.22 บาท/หุ้น เนื่องจากมีการเพิ่มทุนจำนวนมากทำให้มูลค่าลดลงไป
นายเอริค ทอมสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GSTEEL กล่าวว่า กลุ่ม GSTEEL จะกลับมาพลิกฟื้นผลประกอบการได้เพราะมีโรงงานที่ทันสมัยและดีที่สุดในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลาดยังมีความต้องการ และล่าสุดทางการไทยได้ออกมาตรการตอบโต้ทุ่มตลาด (AD) กับจีน
"ผมรู้สึกสบายใจในเรื่องสภาวะความพร้อม โรงงานกลุ่ม GSTEEL มีลูกค้ารอรับสินค้าอยู่แล้ว และมีซัพพลายเออร์ที่ผูกกันไว้แล้ว การพลิกฟื้นกิจการอยู่ในวิสัยที่ทำได้" นายทอมสัน กล่าว
ในวันนี้ GSTEEL ได้แต่งตั้งกรรมการใหม่แทนบางส่วนที่ออกไปโดยแต่งตั้งพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช เป็นประธานกรรมการ แทนนายวิจิตร สุพินิจ และจ้างทีมผู้บริหารเข้ามาพลิกฟื้นกิจการ(Turnaround) 1 ปี ได้แก่ นายอีโว นูแมน กรรมการ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร , นายวิลเลี่ยม แอนโทนี่ กลอยน์ กรรมการ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบัญชีและการเงิน, นายเฟลมมิ่ง เจนเซ่น กรรมการ และ ประธานเจ้าหน้ที่บริหารด้านการค้าและพาณิชย์
ส่วน GJS ก็แต่งตั้งพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช เป็นประธานกรรมการ และนางจุไรรัตน์ ปันยารชุน กับนายปณิธิ ชุณหสวัสดิกุล เป็นกรรมการใหม่