ส่วนประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้ในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% จากดีมานความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า ที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทข้ามชาติ ที่มองว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(AEC) โดยล่าสุด บริษัทฯได้มีพิธีการวางศิลาฤกษ์โครงการ WHA Mega Logistics Center Bangna-Trad Km.23 พื้นที่รวม65,000 ตารางเมตร โดยมีมูลค่าการลงทุนกว่า1,200 ล้านบาท โดยมีลูกค้าจองพื้นที่เต็มทั้งโครงการแล้ว ได้แก่ Starbucks Coffee (Thailand) Co., Ltd., Menlo Worldwide (Thailand) Co., Ltd. , Nissan Motor (Thailand) Co., Ltd.
นายแพทย์สมยศ ยังได้กล่าวอีกว่า ในปีนี้บริษัทฯมีแผนขยายพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า เพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 แสนตารางเมตร เพื่อรองรับลูกค้าใหม่ และเก่า ที่แสดงความต้องการมาแล้วในขณะนี้ โดยบริษัทฯจะเน้นบริเวณที่ตั้งที่เป็นจุดศูนย์กลางด้านโลจิติกส์ และล่าสุดบริษัทฯได้เตรียมที่จะลงทุนพัฒนาพื้นที่ในโซน บางนา-ตราด ลาดกระบัง กบินทร์บุรี วังน้อย จังหวัดอยุธยา สระบุรี รวมถึงพื้นที่ในจังหวัดชลบุรี ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยาย Logistics Center เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด
“สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าWHA ได้แก่ DKSH (Thailand) , Kao(Thailand) , Johnson & Johnson , Unilever (Thailand) , DSG International (Thailand) , BJC , Chanel (Thailand) , Central Retail Corporation , Minor Group , Mazda Sales (Thailand) , Primus International Bangkok , Ducati (Thailand) กลุ่มลูกค้าผู้ให้บริการโลจิสติกส์ อาทิ LF Logistics, Hitachi Transport System (Thailand), Kuehne & Nagel , Kerry Logistic (Thailand) , APL Logistics (Thailand) และ Yusen Logistics ซึ่งจากกลุ่มลูกค้าในข้างต้น แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถ รวมถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ที่มีความแข็งแกร่ง ในสายตากลุ่มนักลงทุนทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ"นายแพทย์สมยศ กล่าว