ตามที่บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(BTSC) คาดจะเสนอขายกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน(BTSGIF) ได้ราวกลางหรือปลายเดือน ก.พ.56 และคาดว่าจะระดมทุนจากกองทุน BTSGIF ได้ถึง 6 หมื่นล้านบาท จากที่คณะกรรมการอนุมัติมูลค่ากองทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ คาดว่าจะแบ่งสัดส่วนจำหน่ายหน่วยกองทุน BTSGIF ให้กับนักลงทุนต่างประเทศ 50% และนักลงทุนในประเทศ สัดส่วน 50% เท่าๆ กัน
ผลกระทบถือว่าดีมาก หากขายได้ถึง 6 หมื่นล้านบาท เพราะอยู่ในช่วงสูง(High Range)จากขั้นต่ำที่ยอมรับได้คือ 5 หมื่นล้านบาท ตามสมมุติฐานเดิมเราให้ขายได้ 5.5 หมื่นล้านบาท ได้กำไร 8.5 พันล้านบาท (หักการเข้าไปถือหุ้นกลับ 33%) คิดเป็น 4.9 เท่าตัวจากกำไรหลักงวดปี 55-56 ที่ 1.74 พันล้านบาท กำไรต่อหุ้นเป็น 0.75 บาท เงินปันผลพิเศษที่ payout ratio 60% เป็น 0.45 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 6.1% แต่หากขายได้ถึง 60 พันล้านบาท ได้กำไรเพิ่มเป็น 11.8 พันล้านบาท คิดเป็น 6.8 เท่าตัวจากกำไรหลักงวดปี 55-56 กำไรต่อหุ้นเป็น 1.05 บาท เงินปันผลพิเศษที่ payout ratio 60% เป็น 0.63 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 8.5% ต่างหากจากเงินปันผลปกติ+กำไรขายหุ้นงวดปีนี้ (หลังหักปันผลระหว่างกาลที่เพิ่งประกาศ 0.163 บาท) ที่ 4%
ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)แนะ"ทยอยสะสม"หุ้น BTS ราคาเหมาะสมเบื้องต้น 8.00 บาท คาดว่า BTS ที่เป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าในปัจจุบัน จึงมีโอกาสสูงมากที่จะได้เป็นผู้บริหารรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายอีกหลายสายในอนาคต
เนื่องจากการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) ที่คาดว่าจะขายในช่วงเดือน ก.พ. — มี.ค. จะสามารถระดมเงินทุนได้ถึง 5.5 - 6 หมื่นล้านบาท และ BTS จะมีเงินสดคงเหลือราว 3.6 — 4 หมื่นล้านบาท หลังหักการถือครองสัดส่วน 1 ใน 3 ของกองทุน IFF ดังนั้น จึงมีความพร้อมสูงสุด ในการลงทุนรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายอีก 2 เส้นทางที่จะเปิดประมูลในปีนี้ ได้แก่ หมอชิต — สะพานใหม่ และ แบริ่ง — สมุทรปราการ
นอกจากนั้น ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลพิเศษราว 0.80 — 1.00 บาทต่อหุ้น หลังเสร็จสิ้นการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 10-13% และจะขึ้น XD เงินปันผล 1H55/56 หุ้นละ 0.163 บาท ในวันที่ 24 ม.ค.2556 คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.2%
พร้อมระบุอยู่ระหว่างทบทวนราคาเหมาะสมของ BTS ขึ้น โดยเบื้องต้นให้ราคาเหมาะสมที่ 8.00 บาท (เดิม 7.57 บาท) จากมูลค่าเงินลงทุนใน VGI ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 95.00 บาท เทียบกับ valuation เดิมที่ให้มูลค่าของ VGI เพียง 65.50 บาท ภายใต้การประเมินมูลค่าโดยวิธี Sum of the parts วานนี้(17 ม.ค.)หุ้น BTS ปิดที่ 7.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท(+3.50%)