DRT ตั้งเป้าปี 56 ยอดขายโต 14-15% รุกตลาดอิฐมวลเบา

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 21, 2013 09:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร(DRT) เปิดเผยว่า ในปี 56 ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 14-15 % จากปี 55 ที่คาดยอดขายจะเติบโต 10% เนื่องจากเชื่อว่าตลาดวัสดุก่อสร้างยังคงมีทิศทางการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากนโยบายการลงทุนของภาครัฐ

ประกอบกับ ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีการลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายหันมาลงทุนโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อการขยายตัวของสินค้าวัสดุก่อสร้างในกลุ่มกระเบื้องผลังคาคอนกรีตและกลุ่มไม้สังเคราะห์ที่ตัวเลขการเติบโตน่าจะสูงถึง 2 หลัก

"ตลาดต่างจังหวัดในปีนี้จะคึกคักมาก เนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างก็เดินหน้าลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งตราเพชรพร้อมรับเทรนด์ดังกล่าว ด้วยกลยุทธ์ Everything in One ของตราเพชร ที่จะมีสินค้าใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างทางเลือกที่ดีกว่าให้แก่ผู้บริโภค ประกอบกับสายการผลิตพร้อมด้วยกำลังการผลิตในปีนี้ที่เพิ่มเป็น 8.92 แสนตัน หรือ 3.7 ล้านตารางเมตร รองรับการทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี เราจึงมั่นใจว่าด้วยแบรนด์ตราเพชรที่เข็งแกร่ง สินค้าที่หลากหลาย กำลังการผลิตที่พร้อม จะผลักดันความสำเร็จด้านยอดขายของเราในปี 56 นี้เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้"นายสาธิต กล่าว
ขณะเดียวกัน ร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ยังมีแผนขยายสาขาใหม่ในต่างจังหวัดมากขึ้น เช่น ไทยวัสดุก่อสร้าง ในปีนี้ตั้งเป้าเปิด 1 สาขาต่อเดือน ซึ่งทำรายได้ให้กับบริษัทประมาน 3-5 ล้านบาทต่อสาขา โดยจะเป็นการรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ปัจจัยข้างต้นทำให้ตราเพชรมองโอกาสทำตลาดเพื่อผลักดันยอดขาย โดยยังคงเน้นเพิ่มความหลากหลายของสินค้าวัสดุก่อสร้าง เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์ Everything in One ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการเจาะตลาดลูกค้าโครงการมากขึ้น โดยการเข้าไปเริ่มตั้งแต่การวางแผนการก่อสร้างซึ่งจะรับรู้รายได่ที่แน่นอน โดยที่มีลูกค้าโครงการหลักๆคือ บมจ.แสนสิริ(SIRI) บมจ.ศุภาลัย (SPALI) และบมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มสัดส่วนยอดขายผ่านห้างค้าปลีกวัสดุรายใหญ่เป็น 8-9% จากเดิมที่มีเพียง 2-3%"นายสาธิต กล่าว

สำหรับในปีนี้ บริษัทจะมีผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบาเข้ามาทำตลาด หลังจากที่คาดว่าโรงงานที่จังหวัดสระบุรีจะก่อสร้างแล้วเสร็จและผลิตได้ในช่วงกลางปีนี้ โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะเข้ามาเติมความเข็งแกร่งให้กับสินค้าตราเพชร คาดว่าในปีนี้จะรับรู้รายได้ประมาณกว่า 200 ล้านบาท โดยจะมีรายได้เต็มปีประมาณ 500-600 ล้านบาท

บริษัทรุกเจาะลูกค้าโครงการที่ต้องลดใช้แรงงานในขั้นตอนก่ออิฐฉาบปูนลง หลังจากต้นทุนค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้นและแรงงานภาคก่อสร้างขาดแคลน ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องมองหาวัสดุก่อสร้างที่ช่วยลดระยะเวลาก่อสร้าง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ ที่ตราเพชรสามารถนำเสนอสินค้าที่หลากหลายผ่านชั้นวาง เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าของลูกค้าได้

นายสาธิต กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยจะเป็นการลงทุนในโรงงานอิฐมวลเบา ซ่อมบำรุงเครื่องจักร และซื้อเครื่องจักใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ เช่น เครื่องปริ้นท์สี

บริษัทได้มีการสร้างโรงงานและคลังสินค้าใหม่ในจังหวัดขอนแก่นเพื่อเป็นการรองรับความต้องการของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และเพื่อลดค่าขนส่งได้ถึง 70-80% โดยคาดการว่าจะเปิดได้ในช่วงไตรมาส 1/56 ซึ่งจะเป็นต้นแบบในการที่จะสร้างแห่งต่อๆไป โดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินอยู่แล้วในจังหวัดลำปางและจังหวัดสุราษฎร์ธานี มองว่าหากประสบความสำเร็จในจังหวัดขอนแก่นก็จะมีการลงทุนในอีก 2 จังหวัดที่มีที่ดินอยู่

สำหรับการส่งออกไปต่างประเทศปัจจุบันมีอยู่กว่า 7-8 ประเทศ โดยในปีนี้มีแผนจะทำการตลาดในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น เช่นในกัมพูชาที่เข้าไปจำหน่ายมาแล้วกว่า 10 ปีแล้ว มีส่วนแบ่งการตลาด 50 % และยังจะเร่งเพิ่มยอดขายในพม่าและลาว เนื่องจากเป็นตลาดทีมีศักยภาพ

ปัจจุบัน สัดส่วนการขายในประเทศ 90% และต่างประเทศ 10% คาดว่าในอนาคตจะมีสัดส่วนการส่งออกที่เพิ่มขึ้นหากมีการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะได้ประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ยังมีแผนขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ