ในวันนี้ ธนาคารได้รับความไว้วางใจจากบมจ. การบินไทย (THAI) ในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อจัดหาเครื่องบิน โดยธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมมือกับ ธนาคารเครดิตอะกรีโคล คอร์ปอร์เรท แอนด์ อินเวสเม้นท์ สถาบันการเงินชั้นนำจากฝรั่งเศส และ ธนาคาร แลนด์เดสแบงก์ เฮสเสน-ทูริงเก้น จิโรเสนเทรล สถาบันการเงินชั้นนำของเยอรมันสนับสนุนทางการเงินแก่การบินไทย เพื่อจัดหาเครื่องบินแอร์บัส รุ่น A330-300 จำนวน 2 ลำ วงเงิน 137.8 ล้านยูโร แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย 64.5 ล้านยูโร ธนาคารแลนด์เดสแบงก์ เฮสเสน-ทูริงเก้น จิโรเซนเทรเล 41.6 ล้านยูโร และธนาคารเครดิต อะกริโคล คอปอร์เรท แอนด์ อินเวสเม้นท์ 31.7 ล้านยูโร
นายวศิน กล่าวว่า ปัจจุบันการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อจัดหาเครื่องบินในประเทศไทยยังมีข้อจำกัดอยู่ เนื่องจากยังไม่มีกฏหมายรองรับในเรื่องการจำนองเครื่องบิน ทำให้ไม่สามารถจดจำนองเครื่องบินในประเทศไทยได้ และยังมีข้อจำกัดทางด้านการเงินสกุลต่างประเทศ โดยในการปล่อยกู้ในครั้งนี้ รูปแบบที่ธนาคารกสิกร ร่วมกับธนาคารต่างประเทศเป็นโครงสร้างที่เป็นสากล โดยเป็นโครงสร้างที่ช่วยให้ต้นทุนทางการเงินของการบินไทยลดลง โดยมีการจัดตั้งบริษัทเฉพาะกิจขึ้นที่ต่างประเทศ และมีการปล่อยกู้ที่บริษัทดังกล่าวเพื่อลดความเสี่ยงของธนาคารกสิกร และยังได้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเนื่องจากเครื่องบิน ได้มีการผลิตในประเทศดังกล่าว
นายวศิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าสินเชื่อรวมของธนาคารจะเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้อีก 5-7% เนื่องจากในปีนี้ได้มองเห็นการเจริญเติบโตของธุรกิจในประเทศ โดยเฉพาะค้าปรีก และ Modern Trade โดยมองว่าผู้ประกอบการมีความต้องการสินเชื่อเพื่อที่จะนำไปพัฒนาธุรกิจ เพื่อที่จะตอบสนองผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น โดยที่มองว่า GDP ของประเทศปีนี้จะเติบโต 5% และคาดว่าสินเชื่อรวมทั้งประเทศจะเติบโต 10 %
ในปี 56 มองว่าสินเชื่อโครงสร้างพื้นฐานจะเติบโตจากที่ภาครัฐได้มีการสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐบาล แต่การปล่อยสินเชื่อยังมีข้อจำกัดทางด้านกฏหมาย แต่จะมีการปล่อยสินเชื่อในรูปแบบเดียวกันกับที่ปล่อยให้การบินไทยมาใช้ เพื่อที่จะผลักดันยอดสินเชื่อของธนาคารให้เติบโตต่อไป