บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า แม้ข่าวบริษัท TCC Assets และ THAIBEV ของ “เสี่ยเจริญ" ปิดดีลเทกโอเวอร์บริษัทเฟรเซอร์แอนด์นีฟ(F&N) ของสิงคโปร์ได้สำเร็จ จะส่งผลบวกต่อการลงทุนในหุ้นเครือเสี่ยเจริญวันนี้ โดยเฉพาะ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์(BJC) ซึ่งคาดจะได้ประโยชน์มากสุดในการต่อยอดธุรกิจหลังจากดีลครั้งนี้สำเร็จ
เพราะ BJC อาจได้ออเดอร์จาก F&N ในการผลิตขวดและกระป๋องเครื่องดื่มทั้งแบบ Alcohol และ Non-Alcohol (ปัจจุบัน F&N มียอดใช้ขวดเบียร์สูงกว่าเบียร์ช้างซึ่ง BJC ผลิตให้อยู่ถึง 2.3 เท่า) ซึ่งย่อมทำให้ยอดขายและกำไรของ BJC มีโอกาสเติบโตอย่างมีนัยฯ ตามมาได้
อย่างไรก็ดีเนื่องจากด้วยกำลังผลิตที่ BJC มีอยู่ปัจจุบันและที่จะเพิ่มตามแผนในช่วง 2 ปีนี้ (ปี 2557) ตามที่บริษัทเปิดเผย กล่าวคือ 1) ธุรกิจผลิตกระป๋องจะเพิ่มกำลังผลิตปัจจุบัน 1,800 ล้านกระป๋อง เป็น 2,600 ล้านกระป๋อง หรือเพิ่มอีก 44% และ 2) ธุรกิจผลิตขวดแก้วจะเพิ่มกำลังผลิตปัจจุบัน 2,700 ตันต่อวัน เป็น 3,000 ตันต่อวัน หรือ เพิ่มอีก 11%
อีกทั้งล่าสุดจากการสอบถามไปที่ BJC พบว่า บริษัทยังไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับแผนเพิ่มกำลังผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อจาก F&N แต่อย่างใด จึงทำให้คาดในช่วงสั้นนี้ BJC ยังคงไม่สามารถรองรับออเดอร์ใหม่ดังกล่าวได้ เพราะแค่ผลิตให้ลูกค้ารายเดิม (อาทิเช่นเบียร์ช้าง โออิชิ เสริมสุข โค้ก กระทิงแดง เป็นต้น) ก็มีอัตราใช้กำลังผลิตปัจจุบันเฉลี่ยสูงถึง 86% แล้ว ดังนั้นในช่วงสั้นนี้จึงแนะนำให้"ชะลอการลงทุน"ไปก่อนจนกว่าจะได้รับข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากดีลครั้งนี้