สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A LB137A, LB145B และ (รุ่นอายุ 4.4 ปี 0.5 ปี และ 1.23 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,824 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ หุ้นกู้ของ
1. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI165A) มูลค่า 253 ล้านบาท
2. บริษัท เมอร์เซเดส — เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (MBTH14DA) มูลค่า 150 ล้านบาท
3. บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK137A) มูลค่า 120 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 522 ล้านบาท หรือคิดเป็น 52% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 20,881 ล้านบาท
2. กลุ่มนิติบุคคลในประเทศ ซื้อสุทธิ 3,072 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 8,275 ล้านบาท
Yield Curve ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในตราสารระยะสั้น ประมาณ 1 bps. และปรับตัวเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 — 3 bps. ตามทิศทางของ US Treasury โดยพันธบัตร ธปท. ระยะสั้นที่ประมูลในวันนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนถึง 2.55 เท่าของวงเงินประมูล สำหรับนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อส่วนใหญ่ในตราสารระยะสั้น โดยในวันนี้มียอดซื้อสุทธิ รวม 8,275 ล้านบาท