TMC เตรียมเข้าพม่าหาพันธมิตร,ตั้งเป้าปี 56 ยอดขายโต 25%ตามอุตฯก่อสร้าง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 24, 2013 11:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม(TMC)ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรระบบไฮดรอลิค กล่าวว่า ปลายเดือนมกราคมนี้เตรียมเดินทางไปประเทศพม่าร่วมไปกับคณะของผู้ประกอบการไทยเกือบ 70 รายที่นำไปโดยธนาคารกรุงเทพเพื่อเข้าไปเจรจาและพบปะกับผู้ประกอบการของพม่าในรูปแบบ Business Matching เพื่อหาพาร์ทเนอร์ที่จะเข้ามาร่วมธุรกิจด้วยกัน

“ตอนนี้เราเข้าไปยังไม่ได้ต้องการไปขายของ แต่ต้องการไปหาพาร์ทเนอร์ที่พม่าว่ามีใครบ้างที่รู้เรื่องและอยู่ในวงการเครื่องจักรบ้าง ซึ่งเราต้องการพาร์ทเนอร์และดิสทริบิวเตอร์ที่ธุรกิจร่วมกันในระยะยาว เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดี มีความสามารถและมีความน่าเชื่อถือ ถ้าคลิกกันได้ก็เริ่มดีลธุรกิจกันได้เลย เพราะสินค้าเราที่ส่งไปแล้วใช้งานได้เลย แต่ต้องดูพาร์ทเนอร์ว่าสามารถดูแลบริการหลังการขายและการซ่อมบำรุงได้ด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วก็เหมือนส่งสินค้าไปทิ้ง ต้องมีบริการหลังการขายเหมือนที่ทำในไทย"นายสุรเชษฐ์ กล่าว

นายสุรเชษฐ์ มองว่า พม่ากำลังเปิดประเทศและมีการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ดังนั้น เครื่องทุ่นแรงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้แน่นอน ซึ่งบริษัทก็ได้ส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายเกือบครบทุกประเทศในอาเซียนแล้ว นอกเหนือจากพม่าก็คงเหลือเพียงบรูไน แต่บริษัทฯยังมองว่าบรูไนยังไม่มีความโดดเด่นมากนัก

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 56 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 25% จากปี 55 ตามทิศทางอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มเติบโตขึ้นตามนโยบายของภาครัฐที่มีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้บริษัทฯเริ่มได้รับออเดอร์จากอุตสาหกรรมก่อสร้างเพิ่มเข้ามามากขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4/55 ขณะที่ออร์เดอร์จากอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ทรงตัว เนื่องจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ที่ยังมีการเติบโตต่อเนื่องจะเป็นรถที่ผลิตส่งออกต่างประเทศมากกว่า

ในปีนี้บริษัทฯ คาดสัดส่วนรายได้มาจากเครื่องเพรสระบบไฮดรอลิคอยู่ที่ 50-60% เครนระบบไฮดรอลิค 20% เครื่องทุ่มแรงระบบไฮดรอลิค 15% และการบริการอีกประมาณ 5-10% ซึ่งปีนี้จะเน้นพัฒนาการบริการให้มากขึ้น เพราะมองว่าให้อัตรากำไร(มาร์จิ้น)ดี และรายได้ยังค่อนข้างต่ำ โดยจะเพิ่มศูนย์บริการและปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ขณะนี้บริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้(Backlog)ต่อจากปลายปี 55 มูลค่า 500 ล้านบาท โดยบริษัทฯจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ไว้ที่ 30% และคาดว่ากำไรสุทธิในปี 56 จะออกมาดีกว่าปี 55 เนื่องจากค่าใช้จ่ายหลายตัวลดลง อย่างเช่นค่าใช้จ่ายขายและบริหาร และต้นทุนทางการเงินไม่มีแล้ว หลังจากชำระคืนเงินกู้ไปทั้งหมด อีกทั้งสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้น

ส่วนผลประกอบการปี 55 ยอดขายทะลุเป้าโต 30% จากปี 54 ที่ทำไว้อยู่ที่ 669 ล้านบาท เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ในปีที่แล้วมีการเติบโตสูง ทำให้ออร์เดอร์เพิ่มขึ้นมาก และกำไรสุทธิปี 55 ดีกว่าปี 54 เนื่องจากกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือน บริษัทฯทำได้อยู่ที่ 110 ล้านบาท

นายสุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า ในปีนี้บริษัทจะใช้งบลงทุน 255 ล้านบาทในการสร้างโรงงานแห่งใหม่ตามแผนงาน ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 3 โดยเฟส 1 ใช้เงินลงทุนราว 120-130 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างช่วงไตรมาส 1/56 แล้วเสร็จประมาณไตรมาส 4/56 เพิ่มกำลังการผลิตได้ 30% ส่วนเฟส 2 ลงทุน 120-130 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/56 แล้วเสร็จประมาณไตรมาส 3/57 เพิ่มกำลังการผลิตอีก 30% เฟสนี้จะเน้นผลิตเครื่องเพรสเป็นหลัก เนื่องจากคาดการณ์แนวโน้มออร์เดอร์จะเข้ามามากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ