ทั้งนี้ หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 21.73 จุด หรือ 0.16% แตะที่ 13,801.06 จุด แต่ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.16 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 1,492.65 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 24.98 จุด หรือ 0.79% แตะที่ 3,128.69 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ จีน และเยอรมนี โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ม.ค. ลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 330,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551 ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 355,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 335,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มนายจ้างยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นแตะ 51.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 24 เดือน จากระดับ 51.5 ในเดือนธ.ค. โดยตัวเลขที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า
ส่วนดัชนี PMI เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของเยอรมนีในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะ 53.6 จาก 50.3 ในเดือนธ.ค. ซึ่งส่งสัญญาณที่สดใส โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีภาคบริการที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนตัวผันผวนเพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัท แอปเปิล อิงค์ โดยราคาหุ้นของแอปเปิลร่วงลงหลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1% แตะระดับ 1.31 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 13.81 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในช่วงเวลาที่สิ้นสุดวันที่ 29 ธ.ค. ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 18% สู่ระดับ 5.45 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.49 หมื่นล้านดอลลาร์