ประกอบกับ นักลงทุนมีความเข้าใจในกองทุนมากขึ้น ความกลัวในความเสี่ยงการเข้าลงทุนในกองทุนลดลง และจากเรื่องประโยชน์ทางภาษี LTF และ RMF ส่งผลให้กองทุนเติบโตขึ้น
นายสมจินต์ กล่าวว่า ในปีนี้ควรจับตากองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะเข้ามาสู่ตลาด เพราะจะส่งผลให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น เชื่อว่ากองทุนเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ภาพรวมของธุรกิจกองทุนในปีนี้เติบโตขึ้น
สำหรับการเสนอขายกองทุนใหม่ ในช่วงระหว่างวันที่ 28 ม.ค.- 5 ก.พ. 56 บริษัทจะเปิดเสนอขาย 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดทหารไทย US500 Equity Index และกองทุนเปิดทหารไทย US500 เพื่อการเลี้ยงชีพ โดยทั้ง 2 กองทุน มีนโยบายเน้นการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ กองทุน ETS Ishare S&P500 Index Fund ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค สหรัฐฯ ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน โดยทั้ง 2 กองทุนมีมูลค่าเงินทุน 1,000 ล้านบาท การจัดตั้งกองทุนในครั้งนี้ได้มีการเน้นการลงทุนในสหรัฐฯ เนื่องมาจากมองว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีการปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่มีความคลี่คลายเรื่อง fiscal cliff และเห็นความชัดเจนในเรื่องอัตราการว่างงานที่ลดลง และตัวเลขซื้อบ้านใหม่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งราคาบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงครึ่งปีแรกอาจเติบโตไม่มากนัก เพราะนักลงทุนยังมีความกังวลว่าปัญหา fiscal cliff อาจจะยังไม่จบ แต่มองว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มเห็นการเติบโตชัดขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ประกาศออกมา
ในส่วนของเงินบาทที่แข็งค่า นายสมจินต์ กล่าวว่า อยากปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ไม่อยากให้มีการแทรกแซง แต่หากจำเป็นจริงๆ ก็ควรมีการวางแผนที่ดีในการเข้าไปแทรกแซง