ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กผลประกอบการเอกชนสดใสหนุนดาวโจนส์ปิดบวก 70.65 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 26, 2013 06:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเดินหน้าขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) จากรายงานผลประกอบการภาคเอกชนที่ออกมาค่อนข้างน่าพอใจ นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีที่ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 70.65 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 13,895.98 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 8.14 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 1,502.96 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดขึ้น 19.33 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 3,149.71 จุด

สำหรับตลอดสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 1.8% ดัชนี S&P 500 บวก 1.1% มาปิดที่เหนือระดับ 1,500 ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2550 และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.5%

ตลาดหุ้นสหรัฐเดินหน้าขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน โดยตลอดทั้งสัปดาห์ ตลาดหุ้นสหรัฐได้รับปัจจัยบวกจากรายงานงบการเงินที่แข็งแกร่ง ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และการที่สภาคองเกรสสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้

โดยในวันศุกร์นั้น ดัชนีหุ้นสหรัฐคึกคักตั้งแต่เปิดตลาด เพราะได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี) และสตาร์บัคส์ นอกจากนี้วอลล์สตรีทยังปรับตัวตามทิศทางตลาดหุ้นในยุโรปที่เคลื่อนไหวแดนบวกขานรับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนม.ค.

วานนี้สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีเพิ่มขึ้นแตะ 104.2 ในเดือนม.ค. จาก 102.4 ในเดือนธ.ค.

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะทางธุรกิจในปัจจุบันปรับขึ้นแตะ 108.0 ในเดือนม.ค. จาก 107.1 ในเดือนธ.ค. ขณะที่การคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มทางธุรกิจอยู่ที่ 100.5 ในเดือนนี้ จาก 98.0 ในเดือนธ.ค. ซึ่งมีการปรับเพิ่มขึ้นจากที่รายงานไว้เดิม 97.9

การเปิดเผยข้อมูลของ Ifo สอดคล้องกับรายงานของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW เมื่อต้นสัปดาห์ที่ระบุว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นเกินคาดแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2553 อันเนื่องมาจากมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในยุโรปจะสามารถต้านทานวิกฤตหนี้ในภูมิภาคและฟื้นตัวขึ้นได้

ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการรายงานในวันศุกร์นั้น กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 7.8% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 369,000 หลังต่อปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้มาก อย่างไรก็ดียอดขายบ้านใหม่ตลอดทั้งปี 2555 ยังสูงกว่าปี 2554 อยู่ประมาณ 20% และถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2552

หุ้นพีแอนด์จีพุ่ง 4.02% แตะ 73.25 ดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทเปิดเผยรายงานผลประกอบการรายไตรมาสก่อนตลาดหุ้นสหรัฐเปิดทำการ โดยผลกำไรและรายได้ของบริษัทออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิลได้ปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ปี 2556 หลังจากที่สามารถกวาดส่วนแบ่งได้มากขึ้นในตลาดสหรัฐ โดยรายได้สุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า แตะ 4.06 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.39 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาส 2 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.2555

หุ้นสตาร์บัคส์พุ่ง 4.10% แตะ 56.81 ดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทรายงานผลประกอบการในช่วงเช้าก่อนเปิดตลาดเช่นกัน โดยผู้ประกอบการร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของโลกเผยว่าบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม หุ้นแอปเปิลยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ภายหลังบริษัทเผยผลประกอบการที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนเมื่อวันพุธ ส่งผลให้บริษัทสูญเสียตำแหน่งบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าสูงสุดกลับคืนไปให้กับเอ็กซอนโมบิล หลังจากที่ในวันเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว แอปเปิลได้แซงหน้าเอ็กซอนในฐานะบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุด

ด้านหุ้นไมโครซอฟท์บวก 0.90% แตะ 27.88 ดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านซอฟท์แวร์รายงายผลประกอบการรายไตรมาสภายหลังตลาดปิดทำการในวันพฤหัสบดี โดยผลกำไรของบริษัทเป็นไปตามคาด

หุ้นเอทีแอนด์ทีบวก 0.80% แตะ 34.02 ดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐเผยงบการเงินหลังปิดตลาดในวันพฤหัสบดี โดยผลกำไรไตรมาส 4 น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่รายได้เพิ่มขึ้นเร็วเกินคาด

หุ้นฮัลลิเบอร์ตันทะยาน 5.05% แตะ 39.72 ดอลลาร์ โดยถึงแม้ว่าบริษัทผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกได้รายงานผลกำไรที่ร่วงลง 26% แตะ 669 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.72 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่ก็ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ