ทั้งนี้ ในปี 55 บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อ 8.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 63% จากปี 54 แบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อและรถยนตืใหม่ 4.1 หมื่นล้านบาท และสินเชื่อผุ้แทนจำหน่าย 4.5 หมื่นล้านบาท
บริษัทคาดว่าในปี 56 จะมีกำไรสุทธิ 468 ล้านบาท จากปี 55 ที่มีกำไรสุทธิ 434.2 ล้านบาท และตั้งเป้ามีหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่เกิน 0.86%ในปี 56 จากปี 55 มีสัดส่วน NPL อยู่ที่ 0.82%
นายอิสระ กล่าวยอมรับว่า จากโครงการรถคันแรกที่สิ้นสุดเมื่อสิ้นปี 55 ทำให้มียอดขายรถยนต์เข้าร่วมโครงการมากถึง 1.2 ล้านคัน ซึ่งเป็นรถอีโคคาร์ และดาวน์น้อยกว่า 20% หรือผ่อนนานกว่า 72 เดือน ซึ่งมีราว 9.6 หมื่นคัน ส่วนนี้มีความกังวลว่าจะเกิดเป็น NPL ได้ เนื่องจากความสามารถในการชำระหนี้มีน้อย กว่ากลุ่มผู้ซื้อรถกระบะ และรถทั่วไป โดยจะเริ่มเห็นความชัดเจนของการเกิด NPL ตั้งแต่กลางปี 56 เป็นต้นไป
"NPL ที่ตั้งไว้สูงกว่าปีก่อนเล็กน้อย เรายอมรับความจริงว่าส่วนหนึ่งน่าจะมาจากโครงการรถคันแรก...ปีนี้ NPL ในระบบน่าจะปรับขึ้น เพราะ segment จากรถคันแรก โดยเฉพาะอีโคคาร์ที่ดาวน์น้อยกว่า 20% หรือผ่อนมากกว่า 72 เดือน น่าจะเป็นกลุ่มที่ต้องติดตาม จะมีปัญหาในการชำระหนี้ ต้องรอดูหลังรัฐบาลคืนเงินจะมี 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เอาเงินมาชำระเงินงวดต่อ หรือกลุ่มที่เอาเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่น ทำให้ไม่มีเงินชำระค่างวด"นายอิสระ กล่าว
นอกจากนี้ มองว่าเศรษฐกิจปีนี้ยังมีความเสี่ยงจากการที่เงินบาทแข็งค่า ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าน่าจะแข็งค่าต่อเนื่องระยะยาว ทำให้กระทบต่อผู้ส่งออกได้ รวมถึงการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศจะกระทบต่อต้นทุนผู้ประกอบการ ขณะที่ดอกเบี้ยในปีนี้น่าจะยังทรงตัว หลังจาก ธปท.ประเมินว่าน่าจะควบคุมเงินเฟ้อในกรอบได้
อย่างไรก็ตาม มองว่าโครงการรถคันแรกส่งผลต่อตลาดโดยรวม ทั้งตลาดรถยนต์ที่สร้างยอดขายได้ถึง 1.4 ล้านคัน และปีนี้น่าจะมียอดขายเติบโตได้ต่อเนื่อง รวมถึงทำให้ตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ขยายตัว โดยปีนี้คาดว่ายอดสินเชื่อเช่าซื้อคงค้างในระบบจะทะลุ 1 ล้านล้านบาท เติบโต 27-33% จากปีก่อนอยู่ที่ 8-9 แสนล้านบาท และส่งผลต่อไปถึงธุรกิจต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจประกันภัย
ด้านนายอัครนันท์ ฐิตสิริวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ลีสซิ่งกสิกรไทย กล่าวว่า ในปี 56 บริษัทมีแผนรุกตลาดเช่าซื้อรถยนต์ในกลุ่มรถกระบะ เนื่องจากตลาดมีความต้องการอย่างมาก ประกอบกับ ช่วงนี้โครงการรถคันแรกสิ้นสุดโครงการแล้วทำให้ความต้องการรถกระบะเพื่อใช้ขนส่งสินค้ามีเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จะขยายธุรกิจไปยังกลุ่มตลาดรถมอเตอร์ไซด์ขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กไบค์ ซึ่งได้รับความนิยมจากกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง