ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 26.73 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 13,869.25 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.3% แตะระดับ 1,497.83 จุด ณ เวลา 10.14 น.ในนิวยอร์ก
ก่อนตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดทำการวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพุ่งขึ้น 4.6% ในเดือนธ.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 2%
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายประจำเดือนธ.ค. ลดลง 4.3% สู่ระดับ 101.7 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย.
ขณะเดียวกัน การเปิดเผยผลประกอบการและการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่เป็นบวกของแคทเธอร์พิลลาร์ก็ไม่สามารถช่วยให้ดัชนีพยุงตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกต่อไปได้ โดยก่อนตลาดหุ้นสหรัฐเปิดทำการในวันนี้ บริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรกลหนักรายใหญ่สุดของโลก รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2555 ที่ดีกว่าการประเมินของนักวิเคราะห์ พร้อมทั้งคาดการณ์แนวโน้มที่สดใสในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อันเนื่องมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐเดินหน้าขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 ที่ปรับตัวขึ้นมาปิดที่เหนือระดับ 1,500 ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2550 เพราะได้รับปัจจัยบวกจากรายงานงบการเงินที่แข็งแกร่ง ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และการที่สภาคองเกรสสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้
สำหรับในสัปดาห์นี้ จะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานสหรัฐในวันศุกร์นี้ นอกจากนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีกำหนดการประชุมเป็นเวลา 2 วัน ในวันอังคารและวันพุธนี้