ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 14.05 จุดหลังยอดทำสัญญาขายบ้านสหรัฐร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 29, 2013 06:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดการทำสัญญาขายบ้านเดือนธ.ค.ลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดที่อาศัยของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและจีนเปิดเผยผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมที่ดีเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 14.05 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 13,881.93 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.78 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 1,500.18 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 4.59 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 3,154.30 จุด

ในช่วงแรกนั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนอยู่ที่ระดับ 2.3074 แสนล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 4.6% ในเดือนธ.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 2% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย.

ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า บริษัทอุตสาหกรรมที่มีรายได้ต่อปีเกิน 20 ล้านหยวน (3.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มีกำไรรวมกัน 5.56 ล้านล้านหยวนในปี 2555 หรือเพิ่มขึ้นเพียง 5.3% ขณะที่ปี 2554 มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 25.4%

อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงอย่างรวดเร็วหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายประจำเดือนธ.ค. ลดลง 4.3% สู่ระดับ 101.7 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย.

ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่ร่วงลงได้ฉุดหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเลนนาร์ ดิ่งลง 2.69% และหุ้นทูล บราเธอร์ ร่วงลง 1.8%

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม หุ้นดัชนี Nasdaq สามารถปิดในแดนบวกได้ หลังจากหุ้นแอปเปิลทะยานขึ้น 2.3% ขณะที่หุ้นยาฮูพุ่งขึ้น 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

ส่วนหุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ ปรับตัวขึ้น 1.96% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้น 1.91 ดอลลาร์ในไตรมาส 4/55 ซึ่งแม้ว่าลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2554 ที่ 2.32 ดอลลาร์ แต่ก็ยังสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ