ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 289.36 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3780.89 จุด บวก 2.73 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7833 จุด ลบ 24.97 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6294.41 จุด บวก 9.96 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายประจำเดือนธ.ค. ลดลง 4.3% สู่ระดับ 101.7 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนพ.ย.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน ภายหลังมีการเปิดเผยข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคอิตาลีลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อความต้องการสินทรัพย์ของอิตาลี
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลี เพิ่มขึ้น 0.04% แตะ 4.17% ในช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาลอนดอน หลังจากที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา บอนด์ยิลด์อายุ 10 ปีลดลงแตะ 4.07% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2553
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่งจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนอยู่ที่ระดับ 2.3074 แสนล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 4.6% ในเดือนธ.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 2% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย.
ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนรายงานว่า บริษัทอุตสาหกรรมที่มีรายได้ต่อปีเกิน 20 ล้านหยวน (3.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มีกำไรรวมกัน 5.56 ล้านล้านหยวนในปี 2555 หรือเพิ่มขึ้นเพียง 5.3% ขณะที่ปี 2554 มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 25.4%
หุ้นเอสเอ็มบี ออฟชอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากราคาหุ้นของบริษัทได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนจากมอร์แกน สแตนลีย์
หุ้นเอเอสเอ็มแอล โฮลดิง ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ของยุโรป พุ่งขึ้น 2.8% หลังจากนักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ปแนะนำให้นักลงทุน "ซื้อ" หุ้นดังกล่าว