โบรกฯเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.น้ำมันพืชไทย(TVO)ได้รับประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่าเพราะต้องนำเข้าวัตถุดิบกากถั่วเหลือง 80-90% ช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นปี 56 อยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปี 55 และส่งผลให้ผลการดำเนินงานปกติเติบโตดีอย่างมีเสถียรภาพ บวกกับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ระดับสูงกว่า 6% ต่อปี
โบรกฯ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ซื้อ 31.80 บล.เอเซียพลัส 32.32 ซื้อ 32.32 บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ซื้อ 24.00 (อยู่ระหว่างปรับขึ้น) บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 27.75
น.ส.นารี อภิเศวตกานต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า แนะเก็งกำไร TVO เรื่องรับประโยชน์จากบาทแข็ง เพราะนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเข้ามาเป็นหลัก บวกกับคาดผลประกอบการปี 55 น่าจะเป็นปีที่ค่อนข้างดีได้อานิสงส์จากราคากากถั่วเหลือง
"ได้ประโยชน์จากบาทแข็งเพราะนำเข้าวัตถุดิบ 80-90% และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Dividend Yield)เฉลี่ย 6% ต่อปี ทั้งปี 55 คาดจ่าย 1.75 บาท/หุ้น ครึ่งแรกจ่ายไปบ้างแล้ว" น.ส.นารี กล่าว
นายเมธี รัมภาสกุล นักวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ช่วงสั้น TVO ได้รับปัจจัยบวกค่าเงินบาทที่แข็งค่าในระยะกลาง-ยาว ผลประกอบการมีแนวโน้มที่จะทรงตัวหรืออ่อนตัวลงเนื่องจากราคากากถั่วเหลืองในประเทศอ่อนตัวลง
"อยู่ระหว่างปรับเป้าระยะสั้นจากผลดีของอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่า ซึ่งจะส่งผลต่องบไตรมาส 1/56 เพราะช่วงค่าเงินแข็งค่าสั่งของมาจะเป็นของสต็อกที่ขายในไตรมาส 1/56 ค่าเงินที่แข็งค่าจะมีผลต่อมาร์จินราว 1-2% เป็นผลดีที่จะเกิดในงบฯไตรมาส 1"นายเมธี กล่าว
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)มองในประเด็นเดียวกันเรื่อง TVO รับประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าเพราะมีการนำเข้าวัตถุดิบถั่วเหลืองจากต่างประเทศ ขณะที่รายได้ของบริษัทอยู่ในประเทศ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1-2/56 ดีขึ้น นอกเหนือจากผลดำเนินงานปกติที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ทั้งจากปริมาณขายและอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยในปี 56 ที่อยู่ในเกณฑ์สูง
"ได้ประโยชน์จากบาทแข็งค่าและอัตรากำไรขั้นต้นปี 56 จะมีเสถียรภาพดีขึ้นเทียบปี 55 ที่สะดุดครึ่งแรกของปี ทำให้ปีนี้โดยรวมผลประกอบการจะอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพมากขึ้น"
โดยครึ่งแรกปี 56 อัตรากำไรขึ้นต้นต่ำกว่า 10% แต่ครึ่งหลังเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลข 2 หลักได้
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เอซียพลัส มอง TVO ได้ประโยชน์เต็มที่จากเงินบาทแข็งค่า เนื่องจากเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองในประเทศที่มีต้นทุนวัตถุดิบหลัก คือ เมล็ดถั่วเหลืองซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศสูงถึง 90% ของต้นทุนเมล็ดถั่วเหลืองทั้งหมดในรูปสกุลเงินดอลลาร์จากสหรัฐอเมริกา บราซิล และอาร์เจตินา เป็นหลัก ส่วนที่เหลือ 10% ซื้อจากแหล่งผลิตในประเทศ ขณะที่รายได้จากการขายกากถั่วเหลืองและน้ำมันเหลืองเกือบทั้งหมดอยู่ในประเทศ ทำให้ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลบวกต่อการทำกำไรของบริษัท
ทั้งนี้ ประเมินค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุก 1 บาท จะเพิ่มกำไรให้กับ TVO ราว 15% จากประมาณการเดิม ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนต่อราคาหุ้น และฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมผลกระทบดังกล่าวไว้ในประมาณการแต่อย่างใด
แนวโน้มกำไร 4Q55 คาดโดดเด่นเมื่อเทียบกับ 4Q54 ที่มีฐานกำไรต่ำเพียง 51 ล้านบาท จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากตามความต้องการกากถั่วเหลืองในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และราคาขายกากถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 43% yoy (จากราคาเฉลี่ย 4Q54 ที่ 13.85 บาท/กก.เพิ่มเป็นเฉลี่ย 19.75 บาท/กก.ในงวด 4Q55)
แต่หากเทียบกับงวด 3Q55 คาดกำไรมีแนวโน้มอ่อนตัวจากต้นทุนถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นตามราคาถั่วเหลืองในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ราคาขายกากถั่วเหลืองในงวด 4Q55 ลดลง 5% qoq โดยเบื้องต้นประเมินกำไรงวด 4Q55 ระดับ 493 ล้านบาท และผลักดันให้ทั้งปี 55 มีกำไรสุทธิ 2,033 ล้านบาท เติบโตสูง 1.8 เท่าตัวจากปี 54
สำหรับปี 56 คาดกำไรสุทธิอย่างอนุรักษ์นิยม 1,869 พันล้านบาท ภายใต้สมมติฐานยอดขายเพิ่มขึ้น 5% yoy แต่ประเมิน Gross Margin อยู่ในกรอบล่างจากเป้าหมายของบริษัทระดับ 10% เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาถั่วเหลืองที่มีความผันผวน ให้ Fair Value ที่ 32.32 บาท โดยคาดเงินปันผลงวด 2H55 หุ้นละ 1.00 บาท ทั้งปี 55 คิดเป็นเงินปันผลรวม 1.8 บาท/หุ้น หรือเทียบเท่า 6.9% ต่อปี