"โครงการนี้จะเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของเอเชีย รองรับการเปิด AEC ในปี 58 โครงการนี้จะเป็นต้นแบบซูเปอร์ริจินอลมอลล์ที่ดีที่สุดในเอเชีย"นางสาววัลยา กล่าว
โครงการดังกล่าวมีกลุ่มเป้าหมายหลักกว่า 13 ล้านคน ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี รวมทั้งโซนที่อยู่อาศัยในอนาคตที่คาดว่าจะเติบโตกว่า 1.5 แสนยูนิตในอีก 5 ปีในบริเวณดังกล่าว
นางสาววัลยา กล่าวเพิ่มว่า ในปี 56 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 15% ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวทางศรษฐกิจของประเทศที่คาดเติบโต 5% ขณะที่รายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังจากเปิดเซ็นทรัลเวสต์เกต บางใหญ่ในปี 58 ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ โดยใช้พื้นที่ 70 ไร่ในการจัดทำศูนย์การค้า
ส่วนพื้นที่ที่เหลือจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 5-6 พันยูนิต ซึ่งถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแรกของ CPN มูลค่าโครงการอยูระหว่างการศึกษา หวังเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลางและบน โดยจะมีการพัฒนาภายหลังเปิดศูนย์การค้าต้นปี 58 ไปแล้ว ขณะเดียวกันก็มีการศึกษาการพัฒนาโรงแรมด้วยในพื้นที่เดียวกัน แต่การพัฒนาโครงการทั้งหมดต้องทำให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ถือหุ้นที่คาดหวังสร้างผลตอบแทน
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายมีผู้เข้าใช้บริการโครงการเซ็นทรัลเวสต์เกต จำนวน 2 แสนคน/วัน เนื่องจากเป็นจุดชื่อมต่อคมนาคมที่สมบูรณ์แบบ รวมถึงโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครรัฐ และยังมีเส้นทางอนาคตรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) เพื่อเชื่อมต่อท่าเรือทวาย โดยมั่นใจว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่รับผลกระทบน้ำท่วมเพราะเตรียมระบบน้ำท่วม และได้มีการถมที่สูงกว่าระดับถนน 1.5 เมตร
"1 หมื่นล้านบาทเป็นเงินลงทุนเฉพาะศูนย์การค้าเท่านั้น ซึ่งจะมี 2 เฟส ส่วนเฟสต่อไปจะพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยหลังเปิดศูนย์การค้าในต้นปี 58 แล้ว ซึ่งจะพัฒนาเป็นคอนโดฯ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่ CPN ลงทุนพัฒนาโครงการ ส่วนวงเงินลงทุนยังไม่ได้ประเมิน"นางวัลยา กล่าว
นอกจากนี้ นางสาววัลยา กล่าวยอมรับว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาซื้อกิจการในต่างประเทศ แต่ขึ้นอยุ่กับโอกาส ส่วนบริษัท เซ็นทรัลรีเทล จำกัด (CRC) กำลังศึกษาแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินโดนีเซีย
ในปีนี้ CPN เปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ อุบลราชธานี เปิดในเดือน เม.ย. , เชียงใหม่ เปิดใน พ.ย. และ หาดใหญ่เปิด ธ.ค.