บริษัทฯ เตรียมทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจ โดยจะลงทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มศักยภาพ มุ่งขยายงานสู่ตลาด Entertainment เพิ่มมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ พร้อมด้วยประกาศจุดยืนใหม่ ภายใต้แนวคิด 360๐ Experience Creator ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่วางกลยุทธ์ ,งาน Creative จนถึงการบริหารจัดการด้วยบริการหลากหลายมิติ ตั้งแต่ งานอีเว้นต์ , IMC Campaign, งานจัดนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ ตลอดจนงานการตลาดออนไลน์
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในปี 2556 บริษัทฯ จะทำการตลาดภายในประเทศ ควบคู่กับการทำตลาดต่างประเทศ โดยในปีนี้ บริษัทฯ จะเพิ่มหน่วยธุรกิจใหม่ 2 ส่วน ได้แก่ 1.หน่วยธุรกิจ IMC ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดให้กับลูกค้า นอกเหนือจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดอีเวนต์ และ 2.หน่วยธุรกิจ The Glitz ซึ่งจะเข้ามาดำเนินงานประเภท Private Lifestyle อาทิเช่น งานครบรอบวันเกิด ,งานจัดทริปพิเศษ และการจัดหาของขวัญหายาก เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญการจัดงานในลักษณะที่เน้นการตอบสนองเฉพาะบุคคลที่ต้องการความพิเศษเหนือ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนจะเปิดตัว Bangkok Creative Playground ซึ่งจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี ซึ่งที่นี่จะเป็นศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์ ที่รวบรวมไอเดียใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจสร้างสรรรค์ เพื่อรองรับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“ในปีนี้ บริษัทฯ จะขยายขอบเขตธุรกิจให้กว้างออกไปมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่จะไม่เป็นเพียงบริษัทอีเว้นท์ แต่เราจะเป็นบริษัทฯ ที่สร้างประสบการณ์ด้วยความคิดสร้างสรรค์แบบครบวงจร ส่งผลให้ ในปีนี้ ก็จะเป็นปีที่เราจะหาพันธมิตรธุรกิจ เพิ่มขึ้นด้วย เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัท ซึ่งต้องพิจารณาหาพาร์ตเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อสร้างงานที่มีประสิทธิภาพ" นายเสริมคุณ กล่าว
ในส่วนของแผนการขยายงานต่างประเทศ ในปีนี้ บริษัทฯ ร่วมกับบริษัทที่ทำธุรกิจไมซ์ (Mice) ที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อทำโครงการใหญ่ โดยเชื่อว่าจะจัดตั้งสำเร็จภายในไตรมาสแรกของปี 56 และสร้างรายได้ภายในปีนี้ ขณะเดียวกัน ปัจจุบันก็มีงานที่ทำในกลุ่มประเทศ CMLV ทั้งในประเทศกัมพูชา, ประเทศพม่า, ประเทศลาว และประเทศเวียดนาม อย่างต่อเนื่อง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO กล่าวอีกว่า ภาพรวมธุรกิจอีเว้นต์ในปี 56 คาดว่าน่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10% โดยเป็นการเติบโตที่หลากหลาย มีการขยายศักยภาพของธุรกิจอีเว้นต์ที่จะไม่ได้จัดแค่งานอีเว้นต์ อย่างเดียว แต่จะมุ่งสู่ธุรกิจ Entertainment มากขึ้น อาทิ การจัดคอนเสิร์ต ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ตลอดจนการจัดงานตามเทศกาลต่างๆ ทั่วประเทศ ส่งผลให้กลุ่มบริษัท Supple และบริษัทฯ ให้เช่าอุปกรณ์ จะเติบโตไปด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เชื่อว่าเป็นปีที่ดีของธุรกิจอีเว้นต์ โดยอีเว้นต์ในประเทศจะตื่นตัวคึกคักขึ้น รับกับการเติบโตของตลาดสื่อสารโทรคมนาคม ที่มีความชัดเจนเรื่อง 3จี ซึ่งเชื่อว่าผู้ประกอบการเจ้าของเครือข่ายต่างๆ และโทรศัพท์เคลื่อนที่รายต่างๆ จะหันมาทำกิจกรรมการตลาดภายใต้อีเวนต์ต่างๆ มากขึ้น ขณะเดียวกันการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ ,ธุรกิจเครื่องดื่มน้ำดำ ,เครื่องดื่มชาเขียว ตลอดจนกลุ่มผลิตภัณฑ์ความสวยงาม ซึ่งปีนี้มีแนวโน้มแข่งขันกันรุนแรง แต่ละค่ายเตรียมจัดหนักงบการตลาดออกมาใช้สำหรับแคมเปญและอีเวนต์ในรูปแบบต่างๆ แน่นอน บวกกับ ภาคธุรกิจยังมีความตื่นตัวในเรื่องของ AEC ทำให้ผู้ประกอบการวางงบประมาณการลงทุนไว้มากขึ้น ทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีทองของธุรกิจอีเว้นต์