ทั้งนี้ เอสซีจีมี EBITDA เท่ากับ 11,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของทุกธุรกิจ ยกเว้นธุรกิจเคมีภัณฑ์ เอสซีจีมีรายได้จากการขายเท่ากับ 99,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นของทุกธุรกิจเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
กำไรสำหรับงวดเพิมขึ้น 8% ส่วนใหญ่เป็นนผลมาจากรายได้เงินปันผลจากธุรกิจการลงทุน แม้ว่ารายได้จากการขายลดลง 4% ตามปัจจัยฤดูกาล แต่มี EBITDA เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน จากรายได้เงินปันผลจากธุรกิจการลงทุน
ผลการดำเนินงานในปี 55 เอสซีจีมีกำไรสำหรับปี 23,580 ล้านบาท ลดลง 14% จากปีก่อน เนื่องจากธุรกิจเคมีภัณฑ์ได้รับผลกระทบจากช่วงขาลงของธุรกิจเคมีภัณฑ์ และจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือลดลงในไตรมาส 2/55 รวมถึงจากการหยุดการผลิตของ BST เอสซีจี มี EBITDA เท่ากับ 45,716 ล้านบาท ลดลง 1% จากปีก่อนในขณะที่มีรายได้จากการขายเท่ากับ 407,601 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นและจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นของทุกธุรกิจในเอสซีจี
ในปี 55 เอสซีจีมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 1,561 ล้านบาท ลดลง 5,213 ล้านบาท จากปีก่อน เป็นผลมาจาก Margin ที่ลดลงของบริษัทร่วมในธุรกิจเคมีภัณฑ์ และจากการหยุดการผลิต ของ BST เอสซีจีมีเงินปันผลรับเท่ากับ 7,959 ล้านบาท ลดลง 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเอสซีจีมีเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม (เอสซีจีถือหุ้น 20-50%) เท่ากับ 3,545 ล้านบาท และจากบริษัทอื่น (เอสซีจี ถือหุ้นต่ำกว่า 20%) เท่ากับ 4,414 ล้านบาท
ณ สิ้นไตรมาส 4/55 เอสซีจีมีเงินสดและเงินสดภายใต้การบริหารเท่ากับ 38,533 ล้านบาท แม้ว่าในระหว่างปีจะมีรายจ่ายลงทุนและการซื้อธุรกิจถึง 47,023 ล้านบาท มีเงินทุนหมุนเวียนสุทธิเท่ากับ 50,394 ล้านบาท ลดลง 2,809 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน เนื่องจากลูกหนี้ที่ลดลง ในขณะที่มีอัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือต่อยอดขายเท่ากับ 44 วัน