พร้อมเตรียมแผนรองรับการขยายสาขาด้วยการพัฒนาคน เปิดศูนย์กระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงระบบสนับสนุนเพื่อการวิเคราะห์และการจัดการที่ง่ายและรวดเร็ว
นายปิยะวัฒน์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 6.0-6.5 พันล้านบาท แบ่งเป็น 3 พันล้านบาทใช้ขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม ซึ่งสิ้นปีจะมีจำนวน 7,370 สาขา และอีก 1.5 พันล้านบาทลงทุนสร้างคลังสินค้าเพิ่ม 2 แห่งที่ชลบุรีกับสมุทรสาคร ส่วนที่เหลือลงทุนด้านไอที
บริษัทคาดว่าในปี 56 อัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)จะเพิ่มขึ้น 0.2-0.3% มาที่ 25-26% ซึ่งมีอัตราเติบโตมาตลอดจากการเพิ่มสัดส่วนจากอาหารที่มีมาร์จิ้นสูงกว่า 30% ส่วนภาพรวมตลาดค้าปลีกปีนี้คาดว่าจะเติบโต 6-8%จากปีก่อนตามการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ และผลการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทช่วยเพิ่มอำนาจการซื้อ รวมมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลและการแข่งขันช่วยกระตุ้นตลาดเติบโต
ณ สิ้นปี 55 มีจำนวนร้านเซเว่น อีเลฟเว่นที่ 6,822 สาขา เพิ่มขึ้น 546 สาขา มียอดซื้อเฉลี่ย 58 บาท/คน/วัน มีจำนวนลูกค้าเข้าร้าน 1,290คน/วัน
พร้อมตั้งเป้าหมายอีก 5 ปีข้างหน้าหรือภายในปี 61 ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นจะมีครบ 1 หมื่นสาขา ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิม 1 ปี จากการเปิดสาขาใหม่ปีละ 550 สาขา และคาดว่ายอดขายจะเติบโตปีละ 13-15% ในช่วง 5 ปีนี้ อีกทั้งเชื่อมั่นว่าร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จะครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 75%
ส่วนการขยายสาขาในประเทศจีน นายปิยะวัฒน์ คาดว่า น่าจะได้ไลเซ่นส์จากเซเว่น อีเลฟเว่น อิงค์จากสหรัฐที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภายในปีนี้ คืออย่างช้าภายในไตรมาส 4 โดยจะเข้าไปขยาย 1 โซน จากทั้งหมดที่มี 10 โซน ซึ่งแต่ละโซนจะครอบคลุมประชากร 120 ล้านคน และเป็นโซนที่อยู่ใกล้เซี่ยงไฮ้ คาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ในปีหน้า และจะ breakevent ใน 3 ปี หรือมีผลขาดทุนช่วง 3 ปีแรก แต่เชื่อว่าหลังจากนั้นจะทำกำไรเพราะมีประสบการณ์และรู้วิธีตอบโจทย์ลูกค้า
"ช่วงนี้ มองจากข้อมูลเรา มีความมั่นใจว่าภายในปีนี้ได้ อย่างแย่ที่สุดก็ไตรมาส 4 จะได้ไลเซ่นส์"นายปิยะวัฒน์ กล่าว
ปัจจุบัน ในจีนเปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่นแล้ว 4 โซน ได้แก่ ปักกิ่ง เฉิงตู ซึ่งญี่ปุ่นได้ไป ส่วนเซี่ยงไฮ้ เป็นของไต้หวันได้ และกวางเจาเป็นของผู้ประกอบการจากฮ่องกง
หลังจากนั้นบริษัทจะขอไลเซ่นส์ขยายร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในพม่า ลาว กัมพูชา เพื่อเตรียมพร้อมการเข้าสู่ตลาดอาเซียนเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ส่วนเวียดนามยังไม่ขอไลเซ่นส์ เพราะเห็นว่าประเทศยังมีปัญหาเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อสูง