บริษัทยังคาดว่ากำไรในปี 56 จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.37 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธุรกิจเคมิคอลส์กำไรฟื้นตัว โดยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ HDPE และนาฟทา(สเปรด)เริ่มดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/55 เฉลี่ยที่ 449 เหรียญ/ตัน และในเดือน ม.ค.ปรับขึ้นมาเป็นเฉลี่ย 487 เหรียญ/ตัน โดยขึ้นไปแตะที่ 500 เหรียญ/ตัน จากทั้งปี 55 สเปรดเฉลี่ยอยู่ที่ 437 เหรียญ/ตัน
ขณะเดียวกันสเปรดของผลิตภัณฑ์โพรพิลีน (PP)ก็สูงขึ้นโดยในม.ค.เฉลี่ยที่ 562 เหรียญ/ตัน จากไตรมาส 4/55 สเปรดเฉลี่ยที่ 569 เหรียญ/ตัน จากสเปรดเฉลี่ยทั้งปี 55 อยู่ที่ 502 เหรียญ/ตัน ทั้งนี้สเปรดโดยรวมในปีนี้คาดว่าจะเฉลี่ยที่ 550 เหรียญ/ตัน เพิ่มจากปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 480 เหรียญ/ตัน จึงทำให้คาดว่าเคมิคอลส์ปีนี้จะดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
"โดยรวมปีนี้ดีขึ้น เคมิคอลส์จะดีขึ้นด้วย ทำให้มั่นใจว่ากำไรปีนี้จะเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน และหากมีโอกาสทำ M&A ก็จะมีรายได้เพิ่มมาอีก"นายกานต์ กล่าว
ขณะที่คาดว่า SCC จะได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าไม่เกิน 300-400 ล้านบาท เพราะได้มีการทำประกันความเสี่ยงไว้บางส่วน และ ปีนี้ลดการส่งออกจากปีที่แล้วมีสัดส่วนส่งออก 28%
"เงินบาทแข็งกระทบเชิงลบอยู่แล้ว เพราะเราเป็น Net Exporter แต่ปีนี้ไม่มาก...เชื่อว่าไม่แข็งไปถึง 28 บาท"
ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 4-5 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนลงทุนจริง 4.7 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 5 ปียังคงตั้งงบลงทุน 2 แสนล้านบาท เน้นการลงทุนธุรกิจในภูมิภาค และเน้นในธุรกิจซิเมนต์และวัสดุก่อสร้าง รวม โลจิสติกส์หรือศูนย์จัดจำหน่าย
นายกานต์ กล่าวว่า ธุรกิจปูนซิเมนต์ในประเทศปีนี้คาดว่าจะมีความต้องการ 5-10% จากปีก่อนมีอัตราเติบโต 12% มาเป็นกว่า 30 ล้านตัน โดย SCC มีกำลังการผลิตเต็มที่ 23 ล้านตัน/ปี คาดว่าปีนี้จะส่งออกเหลือ 4 ล้านตัน จากปีก่อน 5.7 ล้านตัน เพราะความต้องการในประเทศสูงขึ้นจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่ดำเนินการต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ขณะเดียวกันความต้องการปูนซิเมนต์ในภูมิภาคก็สูงขึ้นเช่นกัน ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม นอกจากนี้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างในประเทศก็คาดว่าจะเติบโต 7-8%
ปลายปีนี้บริษัทคาดว่าจะจัดหาเงินกู้ในโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในเวียดนาม และมูลค่าโครงการคงจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ประเมินไว้ 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเหตุที่โครงการล่าช้าไป เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาอุตสาหกรรมปิโตรเคมียังไม่ดีขึ้นจากปัญหาเศรษฐกิจโลก แต่ตอนนี้สหรัฐเริ่มฟื้นตัว และค่าเงินด่องของเวียดนามทรงตัวมา 12-13 เดือนแล้ว