ขณะที่จะรักษาสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงหรือต่ำกว่า 2.5% จากสิ้นปี 55 อยู่ที่ 2.4% พร้อมกับตั้งเป้าส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิปีนี้ 4.4% จากปีก่อนอยู่ที่ 4.33%
นางเจนิส แร แวน เอ็กคอเร็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAY กล่าวว่า การที่ธนาคารได้ตั้งเป้าหมาย NPL สูงขึ้นเล็กน้อยในปีนี้ เพื่อรองรับการแข่งขันในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้มีสมดุลมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อ ส่วนการปล่อยสินเชื่อให้กับ SME เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหา NPL เพิ่มขึ้นจากผลกระทบการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วันทั่วประเทศ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็น SME ที่มีคุณภาพ แต่หากมีรายใดได้รับผลกระทบธนาคารก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ
"ธนาคารมองว่าธุรกิจของไทยมีความแข็งแกร่ง ถึงแม้จะเกิดปัญหาก็จะสามารถปรับตัวและผ่านปัญหานั้นไปได้"นางเอ็กคอเร็น กล่าว
ขณะที่ตั้งเป้ารายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเติบโต 15% จากปี 55 เติบโต 18.8% โดยธนาคารจะให้ความสำคัญกับโมเดลธุรกิจหลักที่จะมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยนำเสนอนวตกรรมทางการเงินผ่านเครือข่ายการให้บริการทั่วประเทศ แบรนด์กรุงศรีที่แข็งแกร่งและเงินทุนที่สามารถแข่งขันได้ เพื่อผลักดันการเติบโตและสร้างความแตกต่างในปี 56
ธนาคารจะสร้างความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจผ่านการขับเคลื่อนของกลยุทธอิเล็คทรอนิกส์ จะมีการนำเสนอบริการทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็คทรอนิกส์เพื่อทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลา ให้น้ำหนักกับผลิตภัณฑ์หรือบริการเชิงยุทธที่ธนาคารให้ความสำคัญด้วยเงินลงทุนที่มากขึ้น โดนยผลิตภัณฑ์บิ๊กแบงก์ที่ประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ออมทรัพย์"กรุงศรีออมทรัพย์มีแต่ได้"และ"ออมทรัพย์จัดให้"
การขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาค โดยการมองหาโอกาสขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาว พม่า และกัมพูชา เพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนในปี 58 ด้วยการเปิดสำนักงานตัวแทนหรือร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารท้องถิ่น เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของลูกค้า และแสวงหาโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่ในประเทศเหล่านี้
นางเอ็กคอเร็น กล่าวว่า ในปีนี้ธนาคารจะเปิดสำนักงานตัวแทนในประเทศพม่า เนื่องจากเห็นว่าการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อมีโอกาสเติบโตมาก ซึ่งคนพม่ารู้จักบริการของกรุงศรีออโต้และบริการศรีสวัสดิ์อยู่แล้ว ขณะที่ธนาคารมีความชำนาญและเชี่ยวชาญในสินเชื่อประเภทดังกล่าว ประกอบกับ ประชากรในพม่ามีจำนวนมาก น่าจะสามารถเปิดตลาดในพม่าได้ดี รวมถึงธนาคารจะมีความร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นธนาคารในประเทศกัมพูชาด้วย และขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเข้าไปทำธุรกิจเต็มตัวไปในช่วงปี 58
นอกจากนั้น ธนาคารจะขยายลูกค้าเข้าสู่กลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยเฉพาะผูที่มีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาท/เดือน ซึ่งเป็นนโยบายที่ดีที่ไม่มีใครทำมาก่อน เพราะคนกลุ่มนี้มีความรับผิดชอบต่อการคืนหนี้ ซึ่งการปล่อยสินเชื่อจะมีความเข้มงวดและมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบเพื่อเปิดโอกาสให้เข้าถึงบริการทางการเงิน สินเชื่อ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ ผ่านบริการของ CSG service (ศรีสวัสดิ์เงินติดล้อ)
สำหรับกระแสข่าวที่จีอีจะขายหุ้น BAY ในมือนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAY กล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่เกิดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคาร เนื่องจากตั้งแต่ที่จีอีเข้ามาก็ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี ปรับปรุงระบบการทำงาน และให้ความรู้กับพนักงานแล้ว