ทั้งนี้ บริษัทกำหนดแผนลงทุนในช่วงปี 56-58 ราว 1.49 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมาจากการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน-การแปลงสภาพวอร์แรนท์และกระแสเงินสดการการดำเนินงาน รวมทั้งสิ้น 6,756 ล้านบาท และจากการกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างประเทศ 8,184 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อเรือสินค้าแห้งเทกอง 11 ลำ และเรือขุดเจาะท้องแบนใหม่ 2 ลำ
สำหรับผลการดำเนินงานในในงวดไตรมาส 1/56 (ต.ค.-ธ.ค.55) อัตราค่าระวางเรืออยู่ที่ 8,000 เหรียญ สรอ./วัน/ลำ ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับเฉลี่ยทั้งปี 55 ที่ 11,000 เหรียญ สรอ./วัน/ลำ ส่วนในไตรมาส 2/56 (ม.ค.-มี.ค. 56) ยังไม่มีวี่แววว่าอัตราค่าระวางเรือจะฟื้นตัว แต่คาดว่าไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 จะฟื้นตัวได้บ้าง ซึ่งจะทำให้บริษัทพลิกกลับมากำไรในงวดปี 55/56 แต่ทั้งนี้ต้องภายใต้ค่าระวางเรือที่เกิน 9,500 เหรียญสรอ./วัน/ลำ
"ในส่วนของธุรกิจเมอร์เมดปีนี้ถือว่าดีมาก ปัจจุบันมีสัญญาทางธุรกิจจำนวนมาก ซึ่งจะไปมีผลในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 พอดี ทำให้ผลประกอบการโดยรวมปีนี้น่าจะ Turnaround และหลังจากลงทุนตรงนี้แล้ว ทำให้บริษัทเติบโตสูงใน 2-3 ปีข้างหน้า...ค่าระวางเรือปีที่แล้วน่าจะผ่านจุดต่ำสุดในรอบ 10 ปีแล้ว" ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าว