ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 108.59 จุด หรือ 0.8% แตะที่ 13,901.20 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.7% แตะระดับ 1,503.20 จุด ณ เวลาประมาณ 10.15 น.ในนิวยอร์ก
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนธ.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2% หลังจากลดลง 0.3% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกปรับทบทวนลงจากรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพ.ย.
นักวิเคราะห์กล่าวว่า สถานการณ์ไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรปได้จุดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ในภูมิภาคให้กลับคืนมาอีกครั้ง โดยนายกรัฐมนตรี มาริอาโน ราฮอย ของสเปนกำลังถูกกดดันจากฝ่ายค้านให้ลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขามีส่วนพัวพันในกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริต ขณะที่การเมืองอิตาลีก็กำลังร้อนแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนวิตกว่าหากนายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีกลับสู่อำนาจอีกครั้งในการเลือกตั้งทั่วไปช่วงปลายเดือนนี้ ก็อาจจะส่งผลต่อความต่อเนื่องในการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเงินของประเทศซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันได้เริ่มต้นเอาไว้ โดยโพลล์ล่าสุดชี้ว่านายแบร์ลุสโคนีกำลังมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น
สถานการณ์ไม่แน่นอนดังกล่าวส่งผลให้ดัชนีหุ้นยุโรปอ่อนตัวลง ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนและอิตาลีปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลงถึง 1% ในวันนี้ ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสเปนพุ่งขึ้น 0.21% แตะที่ 5.42% ส่วนบอนด์ยิลด์อายุ 10 ปีของอิตาลีเพิ่มขึ้น 0.13% แตะ 4.46%