บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น ธนาคารเกียรตินาคิน(KK)ปรับมุมมองเป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มการเติบโตของ KK เนื่องจาก synergies ที่เกิดจากการควบรวมกิจการกับ Phatra Capital ดูน่าตื่นเต้นมากกว่าที่เคยคาดไว้เดิม โดยเห็นการปรับตัวดีขึ้นของอัตราส่วนหลักทางการเงินหลาย ๆ ตัว และเชื่อว่าคุณภาพของกำไรของ KK จะปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากการรวม platforms ทางธุรกิจของทั้ง 2 องค์กรเข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ การนำผลการดำเนินงานของ Phatra เข้ามาไว้ในประมาณการตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป และปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2556-57 ขึ้น 32% และ 28% ตามลำดับ ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ของ KK ที่ 70 บาท จากเดิม 45 บาท โดยอิงจาก PBV ปี 2556 ที่ 1.6 เท่า
หนึ่งในประเด็นเด่นหลังการควบรวมกิจการก็คือคุณภาพของกำไรของ KK ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยการรวมผลการดำเนินงานของ Phatra เข้ามาไว้ในงบการเงินไม่เพียงแต่จะช่วยให้กำไรสุทธิของ KK เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ส่วนประกอบของกำไรของ KK มีคุณภาพดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ก่อนการควบรวม ธุรกิจ SAM ซึ่งได้แก่การขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPA) คิดเป็นสัดส่วนถึง 55% ของกำไรสุทธิของ KK ในปี 2554 และ 36% ในปี 2555 (ผลประกอบการของ Phatra รวมเข้ามาอยู่ในงบของ KK ตั้งแต่เดือนกันยายน 2555) คาดว่าสัดส่วนของกำไรจากการขาย NPA ต่อกำไรสุทธิจะลดลงเหลือ 24% ในปี 2556
ในขณะเดียวกัน สัดส่วนทางการเงินที่สำคัญก็คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากการที่บริษัทมีแหล่งรายได้ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัดส่วนของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (non-NII) ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 43.6% ในปี 2556 (จาก 38.2% ในปี 2555) ROE (ซึ่งรวมค่า goodwill) น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.3% ในปี 2556 จาก 11.8% ในปี 2555 โดยที่กำไรที่เกิดขึ้นจะเป็นกำไรที่มีคุณภาพมากขึ้น