(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวน์ตามตลาดตปท. หลังตัวเลขศก.สหรัฐ-ยุโรปดีกว่าคาด

นอกจากนี้ บริษัทจดทะเบียนของสหรัฐมีการประกาศงบออกมา 23 บริษัท โดยเฉลี่ยปรับตัวดีขึ้นกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 10 % ส่งผลให้ตลาดต่างประเทศรีบาวน์ หลังจากที่ร่วงลงหนักในวันก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยจะรีบาวน์ตามตลาดหุ้นภูมิภาค และ ตลาดหุ้นต่างประเทศด้วย

ส่วนตลาดภูมิภาคมองว่าวันนี้จะบวกบางๆ

พร้อมให้แนวต้าน 1,511-1,512 จุด หากผ่านแนวต้านได้จะปรับเป็น 1,520 จุด แนวรับ 1,500-1,505 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(5 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,979.30 จุด เพิ่มขึ้น 99.22 จุด(+0.71%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,511.29 จุด เพิ่มขึ้น 15.58 จุด(+1.04%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,171.58 จุด เพิ่มขึ้น 40.41 จุด(+1.29%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 143.90 จุด, +0.62% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.04 จุด, +0.14% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.67 จุด, +0.04% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.33 จุด, +0.32% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้เพิ่มขึ้น 38.32 จุด, +0.48%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 189.78 จุด, +1.72% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.15 จุด, +0.27%
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(5 ก.พ.)1,505.72 จุด ลดลง 0.65 จุด(-0.04%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,033.60 ล้านบาท เมื่อ 5 ก.พ.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(5 ก.พ.)ที่ 96.64 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.47 ดอลลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(5 ก.พ.) ปิดที่ 9.47 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.75/77 รอปัจจัยใหม่
• กนง.โต้"กิตติรัตน์" ยันมีอิสระดำเนินนโยบายดอกเบี้ย มุ่งดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจ รับดอกเบี้ยเป็นปัจจัยหนึ่งจูงใจทุนไหลเข้า ด้าน"วีรพงษ์"เผยสั่งทำหนังสือตอบ"กิตติรัตน์"แจงการทำงาน เห็นด้วยข้อเสนอลดดอกเบี้ยสกัดเงินทุน ระบุธปท.ขาดทุนแล้ว 5.3 แสนล้าน"กิตติรัตน์"ยันมีอำนาจเต็มที่
• บริษัท โคเรีย วอเตอร์ รีซอสเซส คอร์ปอเรชั่น หรือ เค.วอเตอร์จากประเทศเกาหลีใต้ และกลุ่มบริษัท ไอทีดี เพาเวอร์ ไชน่า เจวี(ITD Power China JV) ที่มีบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ร่วมอยู่ด้วย เป็น 2 บริษัทที่ผ่านคุณสมบัติสามารถเข้าร่วมเสนอราคาและแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการน้ำ ได้ทั้งแพ็กเกจ เอ ที่มี 6 ชุดแผนงาน(โมดูล) และแพ็กเกจ บี ที่มี 4 โมดูล หรือราว 90% ของงบมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท
• ธุรกิจท่องเที่ยวเชื่อว่าการที่รัฐบาลประกาศให้เทศกาลสงกรานต์มีวันหยุดติดต่อกัน 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-16 เม.ย. ประกอบกับนโยบายรถคันแรก จะทำให้การท่องเที่ยวปีนี้คึกคักที่สุดในรอบ 10 ปี โดยมียอดเติบโตกว่า 100% หรือมีคนไทยท่องเที่ยวประมาณ 20 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มจากปีที่ผ่านมาที่มี 10 ล้านคน/ครั้ง เพราะการประกาศวันหยุดยาวต่อเนื่องทำให้คนไทยสามารถวางแผนเดินทางท่องเที่ยวล่วงหน้า
• ตลาดหลักทรัพย์ ปรับเกณฑ์กำกับดูแลกิจการที่ดีของบจ.ปี 2556 ให้สอดคล้องกับเกณฑ์ของอาเซียน ซีจี สกอร์การ์ด รับ เออีซี เน้นหมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการ เพราะมีคะแนนต่ำสุด พร้อมกำหนดให้คณะกรรมการบริษัทจัดทำรายงานต่อต้านทุจริตและคอร์รัปชันอย่างชัดเจน คาดมีผลทางปฏิบัติในปี 2557
• "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรีจะเรียกรัฐมนตรีเศรษฐกิจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อนำมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทและรายละเอียดของยุทธศาสตร์การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในวันที่ 6 ก.พ.
• นายเอ็ดเวิร์ด ลี หัวหน้าสายงานวิจัยประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าวว่าในปี 2550 ธนาคารโลกจัดทำหลักเกณฑ์ของความเป็นชุมชนเมืองโดยมีเกณฑ์ผ่านอยู่ที่ 50% ในปี 2555 มี 6 ประเทศอาเซียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 50% ดังกล่าวได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ไทย และเวียดนาม ขณะที่อินโดนีเซียผ่านเกณฑ์อย่างเฉียดฉิวที่ 51.4% ส่วนสิงคโปร์ มาเลเซีย และบรูไน มีพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศจัดเป็นชุมชนเมือง

*หุ้นเด่นวันนี้

• JAS(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 8 บาท มองว่าราคาหุ้นพักตัวลงพอสมควรแล้ว โดยที่ปรับตัวลงมาราว 10% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากจุดสูงสุดที่ 6.60 บาท และกรณีราคาหุ้นพักตัวไม่ต่ำกว่า 5.90 บาท เรามองว่ามีโอกาสฟื้นตัวกลับไปที่จุดสูงสุดเดิมอีกครั้ง ขณะที่แนวโน้มของผลประกอบการในปี 2556 Consensus ประเมินว่ากำไรสุทธิไว้ที่ราว 2.8 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 27% YoY โดยมีจุด Cut Loss และแนวรับที่ 5.90 บาท และแนวต้าน 6.25/ 6.60 บาท
• TTCL (เกียรตินาคิน)"เก็งกำไร"เป้า 42.50 บาท ราคาหุ้นที่ยังคง Laggard โดยที่ปรับตัวขึ้นมาเพียง 8.6% YoY เทียบกับกลุ่มรับเหมาที่เฉลี่ยปรับขึ้น 15.0% และระดับของ ROE ใน 9M55 ที่สูงถึง 29% เทียบกับกลุ่มรับเหมาที่เฉลี่ยอยู่ที่ 7.59% ขณะที่ในส่วนของผลการดำเนินงาน หลังจากที่ได้งานก่อสร้างโรงงานแปลงน้ำทะเลเป็นน้ำจืดในประเทศกาตาร์มูลค่า 6.4 พันล้านบาท ทำให้มูลค่างานในมือเฉพาะในปี 2556 จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท Consensus ประเมินกำไรสุทธิในปี 2556 ไว้ที่ราว 786 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% YoY โดยมีจุด Cut Loss ที่ 34.50 บาท
• SAMART(ฟินันเซีย ไซรัส)ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 16.50 บาทจาก 12.90 บาท จากการปรับประมาณการกำไรปี 2013 ขึ้น 8% สะท้อนการขายมือถือ smart phone ที่ดีกว่าคาด สำหรับกำไร 4Q12 โดยคาด -18% Q-Q แต่ +56% Y-Y เป็น 233 ล้านบาท กำไรที่ลดลงเป็นไปตาม SAMTEL ที่มีรายได้อื่นและ gross margin สูงเป็นพิเศษใน 3Q12 หากเป็นไปตามคาด กำไรในปี 2012 จะเพิ่ม 22% ทั้งนี้ SAMART ยังมีลุ้นข่าวดีประมูลงาน APPS ของ AOT (น่าจะรู้ผล 1H13) และงานติดตั้งโครงข่าย 3G เฟส 2 ของ TOT (น่าจะรู้ผล 2H13)
• BWG(บัวหลวง)"เก็งกำไร"ให้แนวรับ 2.06 บาท แนวต้าน 2.20 บาท รับข่าว AKP เข้าซื้อขายครั้งแรก 7 ก.พ.นี้
• MCOT(บัวหลวง)"ซื้อ"ผลการดำเนินงานปี 2556 ซึ่งมีแนวโน้มแข็งแกร่งและมูลค่าเพิ่มจากแพล็ตฟอร์มทีวีดิจิตัลของกสทช., ผู้บริหารตั้งเป้าส่วนแบ่งผู้ชม ณ สิ้นปี 2559 ที่ 16% และตั้งเป้าสัดส่วนรายการที่ผลิตเองเพิ่มขึ้นเป็น 71%, บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 2556 ขยายตัว 14% พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2556 ไปอยู่ที่ 60 บาท