(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวน จับตา Flow ต่างชาติ-การดูแลเงินบาทของธปท.

นอกจากนี้ ยังคงจะต้องจับตาดูแบงก์ชาติด้วยว่าจะมีวิธีการดูแลค่าเงินบาทอย่างไรบ้าง หลังจากที่มีบางกลุ่มได้ส่งหนังสือให้มีการลดอัตราดอกเบี้ย

ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภุมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในดนลบ พร้อมแนะให้จับตาการประชุม ECB ในคืนนี้ โดยให้แนวรับไว้ที่ 1,490 จุด แนวต้าน 1,505 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(6 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,986.52 จุด เพิ่มขึ้น 7.22 จุด(+0.05%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,512.12 จุด เพิ่มขึ้น 0.83 จุด(+0.05%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,168.48 จุด ลดลง 3.10 จุด(-0.10%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 57.43 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.89 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.23 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.72 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.96 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 14.05 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 6.10 จุด

ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุด

• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(6 ก.พ.)1,500.35 จุด ลดลง 5.37 จุด(-0.36%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,286.51 ล้านบาท เมื่อ 6 ก.พ.56
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(6 ก.พ.)ที่ 96.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.02 ดอลลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวานนี้(6 ก.พ.) ปิดที่ 10.7 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 29.78/80 รอปัจจัยใหม่
• "ประสาร"เผยไม่รู้สึกกดดันกรณีขัดแย้งเรื่องนโยบายดอกเบี้ย ระบุกนง.ใช้ข้อมูลรอบด้านพิจารณา ด้านเลขาบอร์ดธปท.ยันไม่มีอำนาจแทรกแซงกนง. ขณะตลาดตราสารหนี้ ระบุข่าวกดดันลดดอกเบี้ย ไม่มีผลต่อตลาดตราสารหนี้ เหตุส่วนต่างดอกเบี้ยไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ดันเงินทุนไหลเข้าไทย
• น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมทีมเศรษฐกิจหารือการจัดทำรายละเอียดและร่าง พ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา และมีความเห็นชอบยุทธศาสตร์การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ 3 ยุทธศาสตร์ ก่อนจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบใน 1-2 สัปดาห์นี้
• ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศพบพฤติกรรมสร้างราคาหุ้นช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้ส่งหลักฐานให้สำนักงาน ก.ล.ต. ตรวจสอบแล้ว พร้อมรับมีการปรับเกณฑ์แคชบาลานซ์เข้มงวดขึ้นเป็นการภายใน เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาดร้อนแรง แจงต้องการปกป้องดูแลผู้ลงทุน ไม่ได้มีเป้าหมายทำลายบรรยากาศการลงทุน ส่วนกรณีตรวจโบรกเกอร์คาดจบเดือนก.พ. นี้
• กบง. ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ 30 สตางค์ต่อลิตรยังต้านไม่อยู่เปิดทางผู้ค้าขยับดีเซล 20 สตางค์ต่อลิตรเป็น29.99 บาทต่อลิตรมีผล 7 ก.พ. เหตุราคาตลาดโลกพุ่งแรง รับทิศทางยังเป็นขาขึ้น ย้ำเดินหน้าปรับโครงสร้างแอลพีจีเพื่อที่จะทำให้คนใช้น้ำมันได้ถูกลง

*หุ้นเด่นวันนี้

• HEMRAJ(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 4.22 บาท จาก 3.65 บาท จากการปรับประมาณการกำไรปี 2013 ขึ้น 5% เป็น 3,190 ล้านบาท (+41% Y-Y) จากแนวโน้มการโอนที่ดินที่สูงกว่าคาด สำหรับกำไรใน 4Q12 คาด +572% Q-Q, +307% Y-Y เพราะรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้า Gheco-One เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นปัจจุบันมี PE เพียง 11.2 เท่า ต่ำที่สุดในกลุ่มที่ 12.4 เท่า ราคาหุ้นยัง laggard เกือบที่สุดในกลุ่ม
• SINGER(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 26 บาท จาก 22.40 บาท จากการปรับประมาณการกำไรปี 2013 ขึ้น 5% เป็น 361 ล้านบาท (+42% Y-Y) สะท้อนความสำเร็จในการบริหารลูกหนี้และเพิ่มสัดส่วนสินค้า Commercial ซึ่งดีต่อ margin สำหรับกำไร 4Q12 คาดทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 72 ล้านบาท +24% Q-Q, +67% Y-Y
• MAJOR(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 24.60 บาท คาดว่ากำไรปกติใน 4Q55 ลดลง 10% QoQ แต่จะเติบโตถึง 117% YoY ขณะที่แนวโน้มในปี 2556 ยังคงแข็งแกร่ง โดยบริษัทที่มีแผนเปิดโรงภาพยนตร์ใหม่กว่า 100 โรง รวมทั้งยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนเครื่องฉายภาพยนตร์ดิจิตอลมากขึ้นจาก 50% เป็น 80% ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนธุรกิจสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์อีกด้วย ขณะที่เราคาดว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท จะเป็นปัจจัยบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค
• NOBLE(เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"นอกจากหุ้นกลุ่มบ้านจะได้ประโยชน์จากความเป็นไปได้ที่แบงก์ชาติจะลดดอกเบี้ยแล้ว NOBLE ยังเป็นหนึ่งในหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม Top Radar Picks ด้วย โดยที่ความน่าสนใจในเชิงกลยุทธ์จะอยู่ที่ 1) ราคาหุ้นยังไม่แพง โดยปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ P/BV ราว 0.85 เท่า 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีระดับ D/E Ratio เพียง 0.78 เท่า 3) จ่ายเงินปันผลในระดับสูงระดับ Dividend Yield เฉลี่ยสูงถึง 4.4%