ทั้งนี้ธนาคารยังคงรักษาระดับความสามารถทำกำไรให้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15% จากปี 55 มีกำไรสุทธิ 683 ล้านบาท ซึ่งในปี 56 นี้ธนาคารยังเร่งเพิ่มรายได้และค่าธรรมเนียม จากธุรกิจ Bank Assurance และบริการด้านต่างๆที่ธนาคารได้พัฒนาและเปิดบริการแล้ว
นอกจากนี้ธนาคารจะพยายามรักษาระดับ NPL ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2% โดยปี 55 ธนาคารมี NPL อยู่ที่ 1.8% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของระบบที่ 2.4%
ส่วนแผนการขยายสาขาของธนาคารในปี 56 ธนาคารตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 77 สาขา จากปี 55 มีสาขาทั้งสิ้น 65 สาขา และพัฒนาช่องทางการให้บริการทางอิเล็คทรอนิกส์หลายบริการ อย่างเช่น Internet Banking ภายใต้ชื่อ LH Bank Speedy, Mobile Banking, Mobile Branch และ ATM เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
นางศศิธร กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารยังคงมุ่งเน้นการทำหน้าที่เป็นธนาคารทางเลือกเพื่อเข้าไปช่วยเติมเต็มและตอบสนองทุกความต้องการด้านการเงินให้กับลูกค้า โดยจะเน้นการสร้างเครือข่ายเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SME รวมถึงการพัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้ของบุคคลากรในการปรับตัวเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน(AEC)อย่างเต็มรูปแบบในปี2558
"การเข้าสู่AECประเทศไทยมองศักยภาพของตัวเองว่าจะสามารถเป็นConnectionได้ แต่ต้องมีการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการหันไปเดินทางออกไปสู่ภูมิภาคอื่นๆเพื่อทำธุรกรรมการค้าขาย โดยเฉพาะผู้ประกอบการSMEที่มีศักยภาพ ซึ่เป็นแรงผลักดันทำให้เศรษฐกิจมีการขับเคลื่อนได้ดี โดยแนวโน้มประชากรจะไหลเข้าตามภูมิภาคต่างเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการกระจายความเจริญและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆไปในภูมิภาคต่างๆโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ๆอย่างมาก ธนาคารพร้อมที่จะสน บสนุนสินเชื่อให้กับธุรกิจSMEในการขยายการลงทุนธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนตามความเหมาะสม" นางศศิธร กล่าว
ส่วนการหาพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียของทางธนาคารเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน ธนาคารมองว่ายังต้องมีการปรับสัดส่วนต่างๆของธนาคารให้อยู่ในระดับที่ดีและมีความพร้อม อาจจะมีพันธมิตรจากในเอเชียหลายรายที่มีความสนใจร่วมเป็นพันธมิตรกับทางธนาคาร