ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 42.47 จุดหลังอีซีบีเตือนศก.ยูโรโซน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 8, 2013 06:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตือนว่า ภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจในยูโรโซนอาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 42.47 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 13,944.05 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.73 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 1,509.39 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 3.35 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 3,165.13 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.พ.ลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 366,000 ราย แต่ตัวเลขยังอยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 360,000 ราย นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ประสิทธิภาพการผลิตในไตรมาส 4/2555 ลดลง 2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.6% และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 4.5% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.2%

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อนายดรากิ ประธานอีซีบีเตือนว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับภาวะขาลง พร้อมกับเตือนว่าภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจในยูโรโซนอาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม นายดรากิได้แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจยุโรปจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง เพราะได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งตลาดการเงินที่ฟื้นตัวขึ้น และอุปสงค์ทั่วโลกที่เริ่มปรับฐานขึ้น

การแสดงความคิดเห็นของนายดรากิมีขึ้นหลังจากอีซีบีมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ นอกจากนี้ อีซีบีไม่ได้ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายที่จะประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและรอดูโอกาสที่เหมาะสมก่อนที่จะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่

หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 3% ขณะที่หุ้นสปรินท์เน็กซ์เทล ลดลง 0.5% หุ้นพรูเดนเชียล ไฟแนนเชียล ดิ่งลง 2.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 4 อันเนื่องมาจากความผันผวนของสกุลเงินต่างๆ รวมถึงสกุลเงินเยน

ส่วนหุ้นนิวส์ คอร์ป ปรับตัวลง 2.3% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ อันเป็นผลมาจากเรทติ้งของรายการโทรทัศน์ “American Idol" และ “X Factor" ปรับตัวลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ