(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้น ตอบรับปัจจัยต่างประเทศ แต่มองวอลุ่มเบาบาง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 11, 2013 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักเชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นช่วงเช้าน่าจะมีการปรับตัวขึ้นไปได้ เนื่องจากคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ มีการประกาศตัวเลขกำไรออกมาเป็นที่น่าพอใจ ประกอบกับผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณสำหรับช่วง 7 ปีข้างหน้าแล้วในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ในแง่ของมูลค่าการซื้อขายจะเบาบางลงเนื่องจากตลาดต่างประเทศยังหยุดในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะทำให้ในภูมิภาคนี้เหลือเพียง 3 ตลาด คือ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย ที่เปิดทำการในวันนี้

ส่วนตลาดภูมิภาคมองว่าวันนี้จะสามารถปรับตัวเป็นบวกได้

พร้อมให้กรอบแกว่งไว้ที่ แนวรับ 1,490-1,493 จุด แนวต้านที่ 1,511-1,512 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ (8 ก.พ.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,992.97 จุด เพิ่มขึ้น 48.92 จุด(+0.35%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,517.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.54 จุด(+0.57%)และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,193.87 จุด เพิ่มขึ้น 28.74 จุด(+0.91%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียปิดทำการเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน รวมถึงตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และมาเลเซีย

อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 2.20 จุด

  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวันศุกร์ (8 ก.พ.) 1,497.30 จุด ลดลง 2.51 จุด(-0.17%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,569.11 ล้านบาท เมื่อ 8 ก.พ.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวันศุกร์(8 ก.พ.)ที่ 95.72 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.11 ดอลลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดเมื่อวันศุกร์ (8 ก.พ.) ปิดที่ 10.69 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 29.78/80 คาดแกว่งแคบรอปัจจัยใหม่ มองกรอบ 29.75-29.85
  • "กิจจา"อัดรัฐบาลเปิดช่องต่างชาติร่วมประมูลออกแบบก่อสร้างโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน เปลี่ยนจากข้อเสนอเดิมจาก "ที่ปรึกษา" ให้ร่วมประมูลเชื่อคนไทยทำได้แค่ "ซับคอนแทรค" เงินก้อนใหญ่อยู่ในมือต่างชาติ ระบุการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยวมากเกินไป ขณะวสท.เตรียมระดมสมองใหญ่ 13 ก.พ. ส่งสัญญาณเตือนรัฐบาล หวั่นแผนงานล้มเหลว
  • ธปท.ปรับใหม่ตรวจสินเชื่อสถาบันการเงิน เน้นตรวจแยกประเภท เน้นพอร์ตสินเชื่อที่เป็นรายได้หลัก ส่งเจ้าหน้าที่ลุยตรวจตั้งแต่ขั้นพิจารณาอนุมัติ พร้อมสุ่มตรวจสาขาจับตาพิเศษดูสินเชื่อรถคันแรก ห่วงฐานลูกหนี้ ส่วนแบงก์ไม่มีปัญหาเหตุตั้งสำรองสูง ขณะผลสำรวจสถาบันการเงิน เริ่มกังวลคุณภาพสินเชื่อครัวเรือน
  • บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ลั่นบาทแข็งค่าไม่กระเทือนผลประกอบการ พร้อมคงเป้ารายได้ปีนี้ ปตท.สผ.ยันมีการบริหารความสมดุลของค่าเงินได้ดี ยังเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน ด้านพีทีที โกลบอลมองบาทแข็งค่า มีโอกาสเห็น 28 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ ทียูเอฟ ยอมรับได้รับผลกระทบ หากค่าบาทแข็งค่าถึงสิ้นไตรมาสแรก แต่ไม่แรง มองยังเร็วเกินไปที่จะลดเป้าเติบโตปีนี้
  • แบงก์ธนชาติกับทิสโก้ เผยตัวเลขแต่ละแบงก์ปล่อยกู้ลูกค้าซื้อรถยนต์ตามโครงการคืนภาษีรถคันแรกของรัฐมากสุด แห่งละกว่า 7 หมื่นคัน ระบุยอดขายแข็งแกร่งหนุนพอร์ตสินเชื่อรถธนชาตโตกว่า 30%ปีก่อน ส่วนปล่อยกู้ประเภทนี้ของทิสโก้ขยายตัวกว่า 34%ช่วงเดียวกัน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • MBKET(กรุงศรี)"เก็งกำไร"เป้า 18.91 บาท มีกำไรสุทธิปี 55 ที่ 738 ล้านบาท (+12.9%YoY) แม้รายได้ค่านายหน้าหลักทรัพย์ลดลงจากอัตราค่าคอมมิชชั่นลดลงเหลือ 0.14% จาก 0.15% ในปี 54 แต่กำไรเติบโต เพราะรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายพนักงานลดลง และอัตราภาษีลดลง ทั้งนี้ MBKET ประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H55 อีก 0.90 บาท/หุ้น (ชำระเงินในที่ 10 เม.ย.) รวมเป็นจ่ายเงินปันทั้งปี 55 ที่ 1.25 บาท/หุ้น
  • DTAC(กสิกรไทย)"ซื้อ"พื้นฐาน 115 บาท กำไร 4Q55 เพิ่ม 7.2% YoY โดยรายได้เติบโตแข็งแกร่งจากรายได้ด้านข้อมูลและจำนวนผู้ใช้บริการสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์จากโปรโมชันลดราคาสำหรับลูกค้าเติมเงิน ARPU เฉลี่ยยังคงเพิ่มขึ้นจากการเติบโตด้านข้อมูลหลัง iphone5 ออกตลาด EBITDA เป็นไปตามคาดคือลดลงเล็กน้อย YoY เนื่องจากต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้เพิ่มจาก 25% เป็น 30% โดยบริษัทยังปันผลสูงที่ 1.66 บาท และมีเป้าการเติบโตรายได้ปีนี้สูงกว่าที่เราทำประมาณการไว้
  • MINT(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 26.80 บาท การเข้าซื้อโรงแรมสองแห่งในเวียดนามเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้น มูลค่าการลงทุนรวมทั้งหมดอยู่ที่ 16 ล้านเหรียญ(480 ล้านบาท)มาจากหุ้นกู้ ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาของโรงแรมทั้งสองแห่งรายงานผลกำไรเล็กน้อย คิดรวมอัตราการเข้าพักอยู่ที่ประมาณ 55% ผลกระทบต่อแนวโน้มกำไรปี 56 มีเพียงเล็กน้อย เนื่องจากต้องรีแบรนด์โรงแรมทั้งสองแห่งใน 6-12 เดือน แต่จะเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการซื้อโรงแรมใหม่ในเวียดนามอีกในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ