ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทย ยังคงมีปัจจัยบวกในเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาล อาทิ มาตรการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานกว่า 2.3 ล้านล้านบาท ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มที่น่าจะได้รับอานิสงค์ดังกล่าว คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง พร้อมทั้งยังคงให้น้ำหนักหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และ กลุ่มสื่อสาร ด้วยเช่นเดียวกัน ประกอบกับ ทิศทางเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศยุโรป ปรับตัวผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
"เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีแรกมีโอกาสแตะระดับ 1,550 จุด เพราะมีหลายปัจจัยบวกสนับสนุนให้ดัชนีราคาหุ้นขยับตัวสูงขึ้น อีกทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีขึ้น ด้วยแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ปัจจัยหลักในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแผนการลงทุนภาครัฐ ที่ส่งผลให้กลุ่มวัสดุก่อสร้างได้รับอานิสงค์ตาม"นายจักรกริช กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้นักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้น 25% ขาย CK, ITD แล้วเปลี่ยนตัวเข้า STEC, UNIQ ถือ CNT ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยในขณะนี้มีการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ประกอบกับระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน
ในขณะเดียวกันสถานการณ์ทางการเมือง ก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หากมีปัจจัยอะไรเข้ามาเป็นตัวกระทบต่อตลาดหุ้นไทย และค่าเงินบาท เชื่อว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และ ภาคการส่งออก อย่างแน่นอน เลือก KSL, AMATA, BGH เป็น Top Picks ประจำเดือน ก.พ