ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/56 จะเปิดตัวกล่องรับสัญญาณ HD เพื่อตอบสนองลูกค้าระดับบน และรองรับคอนเท้นท์ HD จากต่างประเทศ อย่างต่ำ 11 ช่อง
ส่วนธุรกิจ Pay TV เปิดตัวใน ก.พ.56 จะนำเสนอคอนเทนท์จากต่างประเทศ ประกอบด้วยช่องรายการกีฬาและบันเทิงระดับโลก 8 ช่อง ด้วยแพ็คเกจที่ไม่ผูกมัดกับลูกค้า คาดว่าลูกค้าที่มีกล่องสมาร์ทของจีเอ็มเอ็มแซท จะได้รับชมคอนเท้นท์ที่มีคุณภาพและเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ใช้เสาก้างปลา หันมาใช้กล่องจีเอ็มเอ็มแซท
"ในไทยระดับเพย์ทีวี ยังมีการใช้อยู่แค่ 10% ก็เห็นโอกาสที่จะขยายได้ถึง 80-90% มาจากกลยุทธที่มีการพัฒนาคอนเท้นท์ของตัวและซื้อคอนเท้นท์จากต่างชาติ ประกอบกับราคาไม่แพงเมื่อเทียบคอนเท้นท์ต่างประเทศ ไม่มีการผูกมัดกับลูกค้า ตอบโจทย์ลูกค้าได้" นายฟ้าใหม่ กล่าว
นายฟ้าใหม่ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 3 พันล้านบาท มาจากรายได้ขายกล่อง 50% และเพย์ทีวี 50% โดยตั้งเป้ายอดขายกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท เป็น 3 ล้านกล่อง เติบโต 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 ล้านกล่อง โดยแบ่งเป็นกล่องแบบสมาร์ท 60% มินิ 30% และ HD 10% มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ต้องการบริโภคช่องรายการที่มีมากขึ้น และบริษัทมีการขยายช่องทางขายมากขึ้น ทำโปรโมชั่นกับพันธมิตร และความได้เปรียบของบริษัทที่มีคอนเท้นท์จาก GRAMMY จำนวนมาก เป็นที่สนใจของลูกค้า มี provider ต่างชาติสนใจขายคอนเท้นท์ให้บริษัทจำนวนมาก
สำหรับธุรกิจแซทเทิลไลท์ทีวี มองว่ายังสามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง จากการขายคอนเท้นท์มากขึ้น แต่เนื่องจากมีการแข่งขันด้านแพลตฟอร์มมาก ทำให้ราคาการขายลดลง กำไรจึงลดลงตามไปด้วย ผู้ประกอบการจึงหันมาผลิตคอนเท้นท์ที่มีคุณภาพ สร้างจุดขายที่แตกต่าเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น