ทั้งนี้จะเน้นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องของ ECF ซึ่งเป็นผลจากการรักษามาตรฐานการผลิตเฟอร์นิเจอร์รูปแบบต่างๆทั้งในด้านคุณภาพการใช้งาน การออกแบบ และการส่งมอบที่ตรงเวลา ขณะเดียวกันบริษัทยังมีการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดต่างประเทศ ECF มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ในประเทศ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป ซึ่งลูกค้าในประเทศต่างๆมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าออกไปในกลุ่มประเทศอื่นเพิ่มเติม อาทิ ตะวันออกกลางและกลุ่มประเทศ AEC ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์ พม่า มาเลเซีย
ขณะที่ตลาดในประเทศเน้นการเติบโตผ่านการขยายสาขาของโมเดิร์นเทรดชั้นนำอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศได้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศจำนวน 4 แบรนด์ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา คุณภาพระดับ Premium และเฟอร์นิเจอร์นำเข้า แบรนด์ ELEGA มี Showroom 15 สาขาทั่วประเทศ ตั้งอยู่ใน Index Living Mall และ Home Pro เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดแบบประกอบ แบรนด์ Muse จำหน่ายผ่านทาง Tesco Lotus แบรนด์ Leaf จำหน่ายผ่านทาง HomePro และ คาร์ฟูร์ แบรนด์ Fur Direct จำหน่ายผ่านทาง Big C
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของ ECF ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 27พ.ย. 55 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาจาก ก.ล.ต. อย่างไรก็ตามคาดว่าการโรดโชว์ในครั้งนี้จะมีกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจาก ECF เป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด อันดับต้นๆของประเทศที่มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งในอนาคตบริษัทยังมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศออกไปอย่างต่อเนื่อง
สำหรับวัตถุประสงค์การระดมทุนของ ECF ในครั้งนี้ จะนำเงินไปใช้เพื่อการสั่งซื้อเครื่องจักรที่เป็นระบบ Semi Automatic ให้มากขึ้นจากเดิม เพื่อปรับปรุงสายการผลิตเดิมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รองรับการเติบโตของตลาดและคำสั่งซื้อ รวมทั้งจะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน โดยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 130 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 520 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเท่ากับ 100 ล้านบาท บริษัทจะทำการเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 120 ล้านหุ้น ให้กับประชาชนทั่วไป