ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรหดตัวลง 0.6% ในไตรมาส 4 ปี 2555 หลังจากที่ปรับตัวลง 0.1% ในไตรมาส 3 และเมื่อเทียบเป็นรายปี เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัว 0.9%
สาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวเกินคาดในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว เป็นเพราะภาวะหดตัวในประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดของภูมิภาคอย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี โดยมีรายงานในวันนี้ว่าเศรษฐกิจฝรั่งเศสหดตัวลง 0.3% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่จีดีพีเยอรมนีในไตรมาส 4 ปี 2555 หดตัวลง 0.6% จากไตรมาส 3 ปีเดียวกัน และจีดีพี เบื้องต้นของอิตาลีในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 หดตัวลง 0.9% จากไตรมาสก่อนหน้า
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า จีดีพีในไตรมาส 4/2555 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.4% ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส เนื่องจากยอดส่งออกและการลงทุนภาคธุรกิจชะลอตัวลง โดยจีดีพีไตรมาส 4 ของญี่ปุ่นออกมาสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์เกียวโดคาดว่าจะขยายตัว 0.6% ซึ่งเป็นการตอกย้ำมุมมองที่ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอย ท่ามกลางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวลง
หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 1.7% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ยอดขายและผลประกอบการรายไตรมาส
หุ้นสายการบินยูเอส แอร์เวย์ส ดีดตัวขึ้น 91 เซนต์ แตะที่ 15.57 ดอลลาร์ หลังจากยูเอส แอร์เวย์ส ประกาศควบรวมกิจการกับสายการบินอเมริกัน แอร์ไลนส์