ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 9.52 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 13,973.39 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.05 จุด หรือ 0.07% ปิดที่ 1,521.38 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 1.78 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 3,198.66 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า จีดีพีของกลุ่มยูโรโซนหดตัวลง 0.6% ในไตรมาส 4 ปี 2555 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส และเมื่อเทียบเป็นรายปี จีดีพียูโรโซนหดตัว 0.9% เนื่องจากการหดตัวของเศรษฐกิจในประเทศยักษ์ใหญ่อย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี
โดยเศรษฐกิจฝรั่งเศสหดตัวลง 0.3% ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่จีดีพีเยอรมนีในไตรมาส 4 ปี 2555 หดตัวลง 0.6% จากไตรมาส 3 ปีเดียวกัน และจีดีพี เบื้องต้นของอิตาลีในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 หดตัวลง 0.9% จากไตรมาสก่อนหน้า
ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานว่าจีดีพีในไตรมาส 4/2555 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.4% ซึ่งเป็นการหดตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.6% เนื่องจากยอดส่งออกและการลงทุนภาคธุรกิจชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 ก.พ. ร่วงลง 27,000 ราย แตะระดับ 341,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 360,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัว
หุ้นยูเอส แอร์เวย์ส ร่วงลง 4.57% หลังจากมีรายงานว่าอเมริกัน แอร์ไลน์ส และยูเอส แอร์เวย์ส ได้ทำข้อตกลงควบรวมกิจการ มูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อจัดตั้งสายการบินรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐและเป็นสายการบินที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน โดยหลังจากการควบรวมกิจการแล้ว กลุ่มเจ้าหนี้ กลุ่มสหภาพ และพนักงานของบริษัท เอเอ็มอาร์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของอเมริกัน แอร์ไลน์ส จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
หุ้นไฮนซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตซอสมะเขือเทศรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 19.87% หลังจากบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ และบริษัท 3G Capital ตกลงที่จะเข้าซื้อกิจการของไฮนซ์
หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ร่วงลง 3.21% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรลดลงในปี 2555 เนื่องจากการขาดทุนในยุโรป ขณะที่หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ขยับลง 0.71% แม้บริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดก็ตาม