“จากออเดอร์ ที่เริ่มทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เป็นการแสดงให้เห็นถึงสัญญาการฟื้นตัว ทางความต้องการใช้ถ่านหินที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งอานิสงค์จากการฟื้นตัวดังกล่าว จะส่งผลให้ AGE จะมีออเดอร์ใหม่ทยอยเข้ามาในปี 56 เพิ่มขึ้น “ นายพนม กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ไตรมาส 4 /55 บริษัทฯมีรายได้ 1,028 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 63.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/55 สาเหตุที่บริษัทฯมีอัตราการทำกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีโครงการต้นแบบ อย่าง โครงการท่าเรือและคลังสินค้า สาขานครหลวง จ.อยุธยา ซึ่งเป็นโครงการที่ลดการต้นทุนค่าใช้จ่าย การขนส่งด้านโลจิสติกส์ ให้กับบริษัทฯเฉลี่ย ปีละกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯมีอัตรากำไรดีขึ้นในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นดังกล่าว ถือว่าเป็น New High จากเดิมที่บริษัทฯคาดการไว้
ทั้งนี้ โครงการลดต้นทุน ช่วยผลักดันให้บริษัทฯสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้น ได้เฉลี่ย 15-16 % จากปกติอยู่ที่ 11-12% และมีอัตรากำไรสุทธิ กว่า 6% จากปกติ 4% ดังนั้นจึงมองว่า โครงการลดต้นทุนจะสามารถทำประโยชน์ให้บริษัทฯ ได้อย่างมาก พร้อมได้ยังได้กล่าวถึง โครงการเฟส 2 ว่า เบื้องต้นจะแล้วเสร็จ ภายกลางปี 2556 นี้ ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จอย่างเป็นทางการทั้งหมด จะส่งทำให้บริษัทฯกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้อย่างมีศักยภาพเพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้ ในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดสั่งซื้อกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นจากสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน รวมถึงยอดขายในต่างประเทศ ที่เริ่มมีออเดอร์ถ่านหินกลับเข้ามา โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่ไตรมาสเดียว มีเข้ามาสูงถึง 150,000 ตัน เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มียอดออเดอร์ ประมาณ 50,000 ตัน