UAC-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 6.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 63.73 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 7.50 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 7.70 บาท และราคาลงต่ำสุด 6.60 บาท
ขณะที่หุ้นแม่ UAC ปิดตลาดที่ 13.40 บาท ลดลง 0.40 บาท (-2.90%)มูลค่าซื้อขาย 34.22 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 13.70 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 13.90 บาท และราคาลงต่ำสุด 13.40 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ บมจ.ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ (UAC)โดยใช้ชื่อย่อว่า UAC-W1 คาดว่า All-in Premium จะเป็นบวกเนื่องจากผลกระทบจาก Dilution Effect ที่ 16% ซึ่งนับว่าไม่สูง และ Volatility ที่สูงถึง 77% ต่อปี
รวมทั้ง UAC-W1 เป็น Deep-In-The Money จากราคาหุ้นแม่ที่ 13.8 บาท (14 ก.พ.) ประเมินมูลค่า UAC-W1 ได้ที่ 8.36 บาท/หน่วย คิดเป็น All-in Premium 14.93% พร้อมให้กรอบการแกว่งของ UAC-W1 ไว้ที่ 7.31-9.34 บาท เมื่อราคาหุ้น UAC เคลื่อนไหวในกรอบ 12.5-15 บาท
UAC-W1 มีจำนวนที่ออก 92.15 ล้านหน่วย จัดสรรแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราส่วน 5 : 1 ฟรี โดยมีอัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 7.5 บาท, อายุ 3 ปี พร้อมกำหนดใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน มี.ค., มิ.ย., ก.ย. และ ธ.ค. (ใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 29 มี.ค. 56 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 31 ม.ค. 2559 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ)
บมจ. ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์(UAC)ทำธุรกิจ นำเข้า ขาย สารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี โดยกลุ่มลูกค้าได้แก่ กลุ่มน้ำมัน ก๊าซ โรงกลั่นน้ำมันและอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ผู้ผลิตน้ำมันหล่อลื่น โรงงานอุตสาหกรรมโพลิเมอร์และพลาสติก โรงงานอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ โรงไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่น ๆ
ทั้งนี้ ผู้บริหารคาดรายได้ปี 2555 จะอยู่ที่ 850 — 900 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ 1 พันล้านบาท แต่ผลประกอบการสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า และมั่นใจผลประกอบการปี 2556 ทำสถิติใหม่เนื่องจากรับรู้รายได้จากเงินลงทุนหลายโครงการ เช่น โครงการ PPP ที่สุโขทัยที่คาดรับรู้รายได้ในเดือน เม.ย. 130-140 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีแผนที่เจรจาร่วมทุนกับ QTC ในการเปิดโรงไฟฟ้าโดยคาดว่าจะรู้ผลในช่วง 1Q56