ปัจจุบันบริษัทมีแบ็กล็อก 3,482 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ปีนี้ 3,233 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีงานโครงการ(ตลาดรวม) ที่จะเข้าร่วมประมูลได้อยู่ราว 10,000 ล้านบาท มีงานที่รอเซ็นออเดอร์ 93 ล้านบาท และมีงานบิดดิ้งอินโฟเซ็จ 1000 ล้านบาท คาดจะรู้ผลใน 1-2 เดือนนี้ จึงมั่นใจว่าจะทำรายได้ตามเป้า 5.4 พันล้านบาทได้
ส่วนของกำไรสุทธิก็น่าจะ inline กับรายได้ โดยบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 8-10% ในปีนี้ จากปีก่อนที่ 8.7% ซึ่งถ้าดูจากโครงการที่ขึ้น โครงการที่ต่อเนื่องมา ไม่เซอร์ไพร์สมาก (ไม่ทำให้กำไรลดลง) นอกจากนี้บริษัทคาดว่าจะมีการบันทึกรายการพิเศษจากการหักเงินส่งมอบล่าช้าในปีก่อน 20 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าไม่ใช่ความผิดของบริษัท โดยคาดว่าจะกลับมาบันทึกเป็นกำไรในปีนี้ 20 ล้านบาท
สำหรับการขยายตลาดไปต่างประเทศจะเริ่มจากพม่า ซึ่งได้เข้าไปตั้งสำนักงานสาขาเพื่อรับงานติดตั้งเครือข่ายอุปกรณ์โทรคมนาคมแล้ว มองว่าเป็นโอกาสที่ดี ขณะที่ในกัมพูชาต้องใช้เวลา
นายศิริพงษ์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการร่วมทุนกับบมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY ) ตั้งบริษัทล็อกซเล่ย์แอนด์เอไอทีโฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้นคนละ 50% เพื่อหาโอกาสในการเข้าไปลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ แต่จะเน้นต่างประเทศมากกว่า โดยดูทั้งสื่อสาร ไอที พลังงาน โรงไฟฟ้า ทั้งนี้เพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ คาดสรุปความชัดเจนไตรมาส 1/56 นี้
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ยังเป็นงานโครงการ 90% งานบริการ 10% งานโครงการส่วนใหญ่เป็นงานของ CAT และ TOT