ส่วนปี 56/57 (เม.ย.56-มี.ค.57) คาดว่ารายได้จะเติบโตได้มากกว่า 20% จากปกติที่รายได้เติบโตที่ 10-15% หลังจากรวมงบการเงินของการเข้าซื้อกิจการ บริษัท เง็กเซ่งเชียง เม็ททอล จำกัด ซึ่งแต่ละปี เง็กเซ่งเชียงฯ จะมียอดขายราว 1 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิราว 40-50 ล้านบาท
"เมื่อ 1 ก.พ. เราเพิ่มได้เข้าไปร่วมงานในเง็กเซ่งเชียงฯ และเริ่ม work out ช่วง 3 เดือนแรกจะเข้าไปดูด้านการเงิน การจัดการการเงินทั้งหมด วางแผนเรื่อง back office จะมีการย้ายโกดังที่สี่พระยาไปพระปะแดง จะทำให้การขนส่งสินค้าง่ายขึ้น ช่วยลดต้นทุนได้ เม.ย.จะเข้าไปจัดการเรื่องภาระหนี้เงินกู้ ซึ่งดูจากกระแสนเงินสด ทรัพย์สินที่มีอยู่ เชื่อว่าจะลดหนี้ได้ ไม่เป็นภาระมากหนัก...จะเริ่ม console งบ ตั้งแต่ ก.พ.-มี.ค." นายประสาน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปี 56/57 บริษัทตั้งเป้าพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (gross profit margin) ที่ 12% ใกล้เคียงปีก่อน แต่มีเป้าหมายที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะเข้าซื้อกิจการต่อเนื่องในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ โดยตั้งงบในการซื้อกิจการรวม 500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา 3 ราย ใน 3 ธุรกิจที่แตกต่างกัน แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะสามารถปิดดีลได้เร็วหรือไม่
"เป็นอีกเรื่องที่เราต้องการเติบโตอย่างก้าวกระโดด...ประโยชน์ที่ผู้ที่ถูกซื้อก็จะได้ในแง่ของเงินทุน การบริหารจัดการ" นายประสาน กล่าว