สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้น 276.58 จุด หรือ 2.43% ปิดที่ 11,662.52 จุด
หุ้นปรับตัวขึ้นเกือบทั้ง 33 กลุ่ม นำโดยกลุ่มขนส่งทางทะเล เหล็กกล้า และอสังหาริมทรัพย์ มีเพียงกลุ่มสายการบินที่ปรับตัวลดลง
ดัชนีนิกเกอิทะยาน หลังจากที่เงินเยนร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าบีโอเจจะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเชิงรุกต่อไป ซึ่งส่งให้หุ้นการเงินและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกปรับตัวสูงขึ้น
ทสึโตมุ ยามาดะ นักวิเคราะห์จาก kabu.com Securities Co. กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มรู้สึกว่า "อาเบะโนมิกส์" หรือนโยบายเศรษฐกิจของนายอาเบะ กำลังเข้าสู่ระยะปฏิบัติ ในขณะที่มีการคาดการณ์กันว่าบีโอเจจะผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมอีก เมื่อผู้ว่าฯบีโอเจและรองคนใหม่จะเข้าร่วมการประชุมกำหนดนโยบายในเดือนเม.ย.นี้
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้ปัจจัยหนุนจากความหวังว่าญี่ปุ่นจะประกาศเข้าร่วมการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ในเร็วๆนี้ ภายหลังการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ และประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
รัฐบาลญี่ปุ่นและสหรัฐได้ยืนยันในแถลงการณ์ร่วมภายหลังเสร็จสิ้นการพบปะหารือระหว่างผู้นำสองประเทศว่า ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องให้คำมั่นก่อนเข้าร่วมการเจรจาว่าจะยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรทั้งหมด โดยนายอาเบะได้เคยประกาศไว้ว่าญี่ปุ่นจะไม่เข้าร่วมการเจรจา หากข้อตกลงการค้ากำหนดให้ต้องยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น
นักลงทุนเชื่อว่า การเข้าร่วมข้อตกลงการค้าดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับยุทธศาสตร์การเติบโตที่นายอาเบะมุ่งผลักดัน รวมถึงจะช่วยส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของญี่ปุ่นและกระตุ้นแรงซื้อหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก
ในบรรดาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกนั้น หุ้นมาสด้า มอเตอร์ พุ่ง 3.3% และโตโยต้า มอเตอร์ บวก 1.4%