ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกเลือกตั้งอิตาลี ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 216.40 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 26, 2013 06:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปี 2555 เมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อผลการเลือกตั้งที่ยังไม่ชี้ขาดของอิตาลี ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าอิตาลีอาจจะเผชิญวิกฤตการณ์ด้านเสถียรภาพทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง และจะยิ่งทำให้วิกฤติหนี้ยุโรปย่ำแย่ลงด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 13,784.17 จุด ร่วงลง 216.40 จุด หรือ 1.55% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,487.85 จุด ลดลง 27.75 จุด หรือ 1.83% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,116.25 จุด ลดลง 45.57 จุด หรือ 1.44%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากมีรายงานว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของอิตาลียังไม่มีการชี้ขาด โดยก่อนหน้านี้ตลาดวิตกว่ารัฐบาลใหม่ของอิตาลีอาจจะดำเนินนโยบายที่ส่งผลให้การเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจและการคลังของประเทศต้องหยุดชะงัก โดยนายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตัวเก็งอันดับต้นๆว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ชูนโยบายหาเสียงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ทั้งที่เป็นเงื่อนไขที่อิตาลีต้องปฏฺบัติตามที่ได้ให้คำมั่นกับอียูเพื่อแลกกับการขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน

ภาวะการซื้อขายในตลาดซบเซามากขึ้น หลังจากเอชเอสบีซีเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 50.4 ในเดือนก.พ. เทียบกับระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 52.3 ในเดือนม.ค.

หุ้นโลว์ คอส ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ร่วงลง 1.81 ดอลลาร์ ปิดที่ 35.86 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว

หุ้น Chesapeake Energy ดิ่งลง 1.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 19.11 ดอลลาร์ หลังจากมีข่าวว่าซิโนเปค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน จะเสนอซื้อหุ้นจำนวนมากในบริษัท Chesapeake Energy

หุ้นไดนาแว็กซ์ เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 32% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทไม่สามารถนำผลิตภัณฑ์ชุดแรกออกวางจำหน่ายได้ ภายหลังจากคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐไม่อนุมัติให้วางจำหน่าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ