TTW จะขยายธุรกิจน้ำประปาไปพม่า-ลาว-เวียดนาม เล็งยื่นในพม่าหลัง Q2/56

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 26, 2013 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.น้ำประปาไทย (TTW) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนขยายธุรกิจน้ำประปาในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ พม่า ลาว และเวียดนาม ภายในช่วง 5 ปีนี้ (ปี 56-60) ขนาดกำลังการผลิตรรวม 1 แสนลบ.ม./วัน โดยในการลงทุนที่เวียดนามและลาว บริษัทจะเข้าไปซื้อกิจการบริษัทเอกชนที่ไปลงทุนที่สองประเทศดังกล่าวเป็นหลัก ซึ่งมองว่าไม่ค่อยเสี่ยงและไม่ต้องกังวลกับความต้องการใช้น้ำแต่ละประเทศที่มีความต้องการใช้น้ำอยู่แล้วและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และเชื่อว่าการลงทุนในต่างประเทศจะช่วยต่อยอดไปสู่ธุรกิจใหม่ให้กับบริษัท

แต่สำหรับในพม่า เนื่องจากไม่เคยมีเอกชนลงทุนธุรกิจน้ำประปาบริษัทจึงต้องลงทุนเอง โดยขณะนี้อยู่ขั้นตอนรวบรวมรายละเอียดเพื่อที่จะได้ข้อยุติภายในบริษัทที่คาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาส 2/56 เพื่อยื่นข้อเสนอหรือรูปแบบการดำเนินกิจการให้กับทางการพม่าต่อไป ซึ่งรูปแบบอาจผลิตกับจ่ายน้ำ หรือ ผลิตอย่างเดียว หรืออาจเป็นการผลิต จ่ายน้ำร่วมถึงการเก็บค่าน้ำเอง

"เราคิดว่าจะได้ข้อยุติกันภายในบริษัทในไตรมาส 2 จากนั้นเสนอทางการพม่า ซึ่งเราได้เก็บข้อมูลมาตั้งแต่เมื่อกลางปี 55 แล้ว ...น้ำ เป็นงานที่ภาครัฐให้บริการ จึงขึ้นกับการตัดสินใจของภาครัฐ จากที่เราเข้าไปคุย เขา(ทางการพม่า)มีเจตนาจะเปิดให้เอกชนเข้ามาทำธุรกิจน้ำ"นายสมโพธิ กล่าว

นอกจากนี้ การเข้าลงทุนในพม่า บริษัทต้องคำนึงถึงกฎระเบียบที่ทางการกำลังปรับปรุงอยู่ รวมถึงระบบการเงินการธนาคาร ซึ่งการทำธุรกิจในพม่าปัจจุบันใช้เงินสดอย่างเดียวอยู่ รวมถึงความท้าทายเกี่ยวกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนท้องถิ่น ได้แก่ เงินจ๊าดของพม่า เงินด่องของเวียดนาม และเงินกีบของลาว

ขณะเดียวกัน การลงทุนในประเทศจะมีการขยายกำลังการผลิตน้ำประปาอีก 1 แสนลบ.ม./วัน ในโรงงานปทุมธานี(PTW) หลังจากที่ได้ยื่นต่อการประปาส่วนภูมิภาคเพื่อขยายการผลิตจากปัจจุบันที่ผลิตเต็มกำลังการผลิตที่ 3.8 แสนลบ.ม./วัน นอกจากนี้ ในจ.สมุทรสาครและนครปฐม ความต้องการใช้น้ำอย่างรวดเร็ว คาดว่าใน 2 ปีนี้จะผลิตเต็มกำลังการผลิตที่ 4.4 แสนลบ.ม./วัน คาดว่าจะเพิ่มการผลิตอีก 1 แสนลบ.ม./วัน ที่ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี รองรับกันพอดี

ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทน นายสมโพธิ คาดว่า โครงการพลังงานแสงอาทิตย์จะได้ข้อสรุปกลางปีนี้ หากไม่ได้ก็ต้องรอการอนุมัติใบอนุญาตรอบใหม่ ส่วนโครงการไบโอแมส คาดว่ากลางปีนี้น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น แต่สำหรับโครงการพลังงานลม ในปีนี้จะไม่ได้ข้อสรุปเพราะต้องรอผลศึกษา และทดสอบความแรงของลมนานถึง 18 -24 เดือน

กรรมการผู้จัดการ TTW กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุน 2.38 หมื่นล้านบาท เฉลี่ยปีละ 4-5 พันล้านบาท โดยแหล่งเงินจะมาจากเงินกู้ยืม 1.2 หมื่นล้านบาท เงินที่ได้จากการระดมทุนผ่านหุ้นกู้ที่คาดว่าในช่วง 5 ปีนี้จะออกทั้งหมด 1.2 หมื่นล้านบาท แบ่งไปใช้ในการลงทุนใหม่ 5 พันล้านบาท อีก 7 พันล้านบาท เป็นการคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอน ซึ่งปีที่แล้วได้ออกหู้นกู้ไป 3.5 พันล้านบาทเพื่อคืนหุ้นกู้เดิม และจะมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดอายุอีกในปี 57 จำนวน 1.7 พันล้านบาท และ 1.8 พันล้านบาทในปี 58 ขณะเดียวกันบริษัทมีกระแสเงินสดราว 5 พันกว่าล้านบาทในปัจจุบัน

ทั้งนี้ หากบริษัทออกหุ้นกู้ 1.2 หมื่นล้านบาทและเงินกู้ยืม 1.2 หมื่นล้านบาท จะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่มเป็น 1.8 เท่าจาก 1.3 เท่าในปัจจุบ้น โดยบริษัทจะรักษาเพดาน D/E ไม่เกิน 2 เท่า และจะไม่มีการเพิ่มทุนในช่วง 5 ปีนี้

นายสมโพธิ กล่าวว่า ในปี 56 คาดว่ารายได้จะเพิ่มเป็น 6 พันล้านบาทจากปีก่อนที่ทำได้ 5.3 พันล้านบาท หรือเตินโต 13-14% ส่วนกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะทำได้ดีกว่าปีก่อน แม้ว่าในปีนี้เป็นปีแรกที่เสียภาษีเต็มปี หลังหมดสิทธิบีโอไอ จากปีก่อนที่เสียภาษีครึ่งปีหลัง เพราะจะมีการเข้าซื้อกิจการน้ำประปาใหม่เข้ามาในปีนี้

รวมทั้งบริษัทยังได้รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบมจ.ซีเค เพาเวอร์ (CKP) ประมาณ 150 ล้านบาทจากการถือหุ้น 30% แต่ไม่ได้รับเงินจริง แต่เข้าไปสะสมใน CKP และ CKP จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีการนำหุ้นเดิมและหุ้นออกใหม่นำขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO)ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม TTW ต้องการรักษาระดับหุ้น 25%ใน CKP หรือตัดขายออกไป 5% เพราะบริษัทต้องการลงทุนระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ