ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 115.96 จุดรับ"เบอร์นันเก้"ปกป้อง QE

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 27, 2013 05:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงปกป้องมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของเฟด ต่อสภาคองเกรสสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและยอดขายบ้านใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 115.96 จุด หรือ 0.8% ปิดที่ 13900.13 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 9.09 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 1496.94 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 13.40 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 3129.65 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากเบอร์นันเก้แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดมีความตั้งใจที่จะเดินหน้ามาตรการ QE หรือโครงการซื้อพันธบัตร จนกว่าตัวเลขการจ้างงานจะฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งเขาไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะยุติการใช้มาตรการ QE ก่อนสิ้นปีนี้หรือไม่ นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ที่ระบุว่า "ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้วาเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น"

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นแตะ 69.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนพ.ย.2555 จากระดับ 58.4 ในเดือนม.ค.

ลินน์ ฟรังโก ผู้อำนวยการฝ่ายดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจของ Conference Board กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นในเดือนก.พ. สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มปรับตัวรับผลกระทบของความไม่แน่นอนทางการคลังของประเทศและการปรับขึ้นภาษีในเดือนม.ค.

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.พุ่งขึ้น 15.6% แตะที่ 437,000 ยูนิตในรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนก.ค.2551 ขณะที่ราคากลางของบ้านใหม่ในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 2.1% สู่ระดับ 226,400 ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ปีก่อน

นอกจากนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เผย ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเดือนธ.ค. ซึ่งส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐที่ความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ในเดือนธ.ค. 2555 ปรับตัวขึ้น 0.9% จากเดือนพ.ย. และพุ่งขึ้น 6.8% จากเดือนธ.ค.2554 ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นมากที่สุดในรายปีนับแต่เดือนก.ค. 2549

หุ้นโฮมดีโปท์ ทะยานขึ้น 5.74% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นมาซี พุ่งขึ้น 2.78% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัท

อย่างไรก็ตาม หุ้นเจพีมอร์แกน ปรับตัวลง 0.21% หลังจากเจพีมอร์แกนประกาศว่าจะเลย์ออฟพนักงาน 19,000 คนในธุรกิจการปล่อยกู้จำนองและธุรกิจการธนาคาร ภายในปี 2557


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ