PREB คาดรายได้ปี 57โตกว่า18%จากปีนี้คาด 5 พันลบ., กำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 27, 2013 14:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พรีบิลท์ (PREB) กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 57 โตกว่า 18% จากปี56 ที่คาดว่ามีรายได้โต 25% จากปี55 หรืออยู่ที่ 5,000 ล้านบาท โดยในปี55 บริษัทฯมีรายได้รวม 4.08 พันล้านบาท เนื่องจากการทยอยรับรู้รายได้ในโครงการใหม่ๆต่อเนื่องจากปี 56

สำหรับในปี 56 จะมีการทยอยรับรู้รายได้จากคอนโดมิเนียมเพิ่มเติมอีกจำนวน 3 โครงการ ได้แก่ เดอะเทมโป รัชดา, เดอะเทมโป เอ็ม ติวานนท์, เดอะเทมโป พหลโยธิน และทาวน์เฮาส์ เดอะเทมโป ทาวน์ ไทรม้า มูลค่ารวมกว่า 650 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯคาดว่ากำไรในปี 56 จะดีกว่า55 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 188.71 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทฯเตรียมพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม มูลค่าโครงการกว่า 2 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมินียม High Rise จำนวน 2 อาคาร สูง 24 ชั้นและ 41 ชั้น ตั้งอยู่แนวรถไฟฟ้า ระยะทางใกล้รถไฟฟ้าเพียง 30 กิโลเมตร โดยอยู่ภายใต้แบรนด์ The Tempo Grand คาดว่าจะสามารถเปิดขายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถสร้างเสร็จและรับรู้รายได้ในปี 58 เป็นต้นไป

"ปีนี้เราชูThe Tempo Grand เป็นตัวที่สามารถสร้างการเติบโตให้กับ Built Land ซึ่งโครงการนี้จะทำให้ Buit Land สามารถเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยจุดเด่นของคอนโดฯ The Tempo Grand นั้นใกล้รถไฟฟ้า ราคาในแต่ละยูนิตไม่แพงมาก ซึ่งตรงนี้เราต้องการให้มียอดขายที่เร็ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการทำ EIA ให้ครบถ้วน ถ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็พร้อมเปิดขาย เราประเมินกำไรสุทธิจากโครงการนี้อยู่ในระดับ 15% ซึ่งโครงการนี้น่าจะมีกำไรอยู่ที่ 300 ล้านบาท" นายชัยรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมจดทะเบียน Buit Land ให้เป็นบริษัทมหาชน ภายในเดือนพฤษภาคม 56 และคาดว่าจะพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อมีผลตอบแทนที่เป็นไปตามที่บริษัทฯต้องการ

นายชัยรัตน์ กล่าวว่า บริษัทฯมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 7.4 พันล้าน เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 55 ที่มีงานในมืออยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท จากการได้รับงานในโครงการก่อสร้างในบริษัทฯเอกชนราว 2.4 พันล้านบาท โดยคาดว่าในปี 56 จะสามารถรับรู้รายได้จาก Backlog ประมาณ 3.9 พันล้านบาท และในส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 57 ในขณะเดียวกันบริษัทฯก็ได้มีการยื่นประมูลงานให่มูลค่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานประมาณ 80-90% และจะทำให้ Backlog ของบริษัทแตะในระดับ 1 หมื่นล้านบาทได้

ในส่วนของธุรกิจพีซีเอ็มขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจาณาขยายกำลังการผลิตแผ่นพื้นและผนังสำเร็จรูป เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันพีซีเอ็มมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 250 หลังต่อปี แต่สามารถขายได้ 180 หลังต่อปี ซึ่งยังใช้ไม่เต็มกำลังการผลิต แต่แนวโน้มมีความต้องการมากขึ้นและคาดว่าอาจจะใช้กำลังการผลิตได้เต็มในอนาคต

ขณะที่ มองว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างปีนี้จะเติบโตประมาณ 10-20% โดยแบ่งเป็นอัตรการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างภาครัฐ 27% และเอกชนโต 10.6% และมองแนวโน้มอสังหาริมริมทรัพย์คอนโดมิเนียมมีการขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งตลาดคอนโดมิเนีบมราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท 30 ตร.วา จะมียอดขายดี เนื่องจากเน้นไปกลุ่มคน Gen Y ที่มีเงินเดือน 3-4 หมื่นบาท/เดือน ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างจังหวัดก็มีการขยายตัวอย่างมากเช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้จากมีผู้ประกอบการหลายรายเข้าไปรุกตลาดในต่างจังหวัดกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้อุตสาหกรรมก่อสร้างจะเติบโต แต่ภาพรวมของราคาต้นทุนวัสดุก่อสร้างและแรงงงานก็เพิ่มสูงขึ้นตามกัน โดยปีนี้ค่าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 3% ค่าแรงเพิ่มขึ้น 7% และปีต่อๆไปคาดว่าภาพรวมต้นทุนวัสดุก่อสร้างและแรงงงานจะปรับเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5% เนื่องจากการขยายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ทำให้มีดีมานเพิ่มมากขึ้น และผู้ผลิตและจัดหาวัสดุก่อสร้างหรือซัพพลายไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันทำให้ของขาด ส่งผลทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้น


แท็ก พรีบิลท์   (PREB)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ