"มั่นใจว่าจะปิดดีลลูกค้ารายใหญ่ได้แล้วอย่างน้อย 1 ราย ส่วนที่เหลือก็เพิ่งเริ่มเจรจา รายใหญ่จะเป็นการซื้อที่ดินที่ปทุมธานี ส่วนรายเอสเอ็มอี สนใจที่โคราช ตกรายละ 10-20 ไร่...ผมขอตั้งเป้าแบบ conservative ไว้ก่อนที่ 10% แต่จริงๆน่าจะทำได้มากกว่า ก็ขอรอดูหลังกลางปีอีกที เพราะตอนนี้รายได้ค่าบริการก็เริ่มกลับมา ตามการกลับมาเปิดโรงงานของลูกค้าในนิคมฯ ซึ่งกำลังการผลิตกลับมาแล้ว 90%" นายนิพิฐ กล่าว
ปีนี้บริษัทยังมีแผนขยายนิคมอุตสาหกรรมฯที่โคราช ในเฟส 3 มีเนื้อที่ราว 800 ไร่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า หลังจากเฟส 2 มีการขายที่ดินเกือบเต็มแล้ว นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 3 เนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกทำเลที่เหมาะสม โดยจะเน้นทำเป็นนิคมฯเฉพาะทาง รองรับอุตสาหกรรมเฉพาะด้าน
นอกจากนี้บริษัทได้ร่วมทุนกับ บมจ.ปตท. (PTT) และ บมจ.ราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ ขนาด 120 เมกะวัตต์ ที่จ.ปทุมธานี มูลค่าโครงการ 5 พันล้านบาท โดย NNCL ถือหุ้น 30% PTT ถือหุ้น 30% RATCH ถือหุ้น 40% โดยได้ใบอนุญาต มีที่ดินและโครงสร้างพื้นฐานรองรับแล้ว อยู่ระหว่างการหาผู้รับเหมา คาดเริ่มก่อสร้างได้ในกลางปี 56 การก่อสร้างแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในอีก 3 ปี และยังมีแผนสร้างโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 ที่โคราช ตามแนวท่อก๊าซ อยู่ระหว่างการจัดหาผู้ร่วมทุนต่อไป
บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจ โดยอยู่ระหว่างจัดทำแผนการลงทุนเพื่อจัดทำคอมมูนิตี้มอลล์ และคอนโดมิเนียม ที่ จ.ปทุมธานี ใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต บนเนื้อที่ 100 ไร่ ซึ่งจะต้องมีการเจรจาทำความเข้าใจกับชุมชนโดยรอบด้วย ส่วนมูลค่าโครงการลงทุนอยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าเริ่มโครงการในปี 57
นายนิพิฐ กล่าวอีกว่า จากแผนการขยายการลงทุนดังกล่าว ซึ่งเตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาในเดือน พ.ค.56 พร้อมกับแผนการระดมทุนเพื่อใช้พัฒนาโครงการดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งจะมีทั้งการเพิ่มทุน การนำคอมมูนิตี้มอลล์จัดตั้งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ และการออกหุ้นกู้ โดยวงเงินระดมทุนและสัดส่วนการระดมทุนอยู่ระหว่างการจัดทำแผนที่ชัดเจน
"เพิ่มทุนคงต้องเพิ่ม เพราะช่วงปีที่ผ่านมาเราต้องการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม และยังมีแผนการขยายการลงทุนด้านต่างๆ ส่วนจะทำอะไรบ้างจะมีการเสนอบอร์ดในเดือน พ.ค. ทั้งด้านการเงิน และการลงทุน" นายนิพิฐ กล่าว