นายวรพล โสติคยานุรักษ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่กรุงเทพมหานครต่อสัญญาว่าจ้างระหว่างบมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ(BTSC) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบมจ.บีที่เอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน BTSGIF จึงเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามปกติ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 45 วันหรือเร็วกว่านั้นในการอนุมัติไฟลิ่ง
"DSI ส่งข้อมูลกลับมาให้ ก.ล.ต.เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้เรากำลังพิจารณากันอยู่ ซึ่งก็เป็นไปตามขั้นตอน ...มีเวลาพิจารณา 45 วัน หรืออาจจะเร็วกว่านั้น " นายวรพล กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า เนื่องจากการออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นการใช้หลักเกณฑ์ใหม่ ทำให้ต้องได้ข้อมูลจากทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความรอบคอบ ทั้งฝ่ายที่ปรึกษาบัญชี บริษัทหลักทรัพย์ เป็นต้น
นายวรพล กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีเอกชนผู้ประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าได้ยื่นขอจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานแล้ว มูลค่ากองทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ มองว่ากองทุนโครงสร้างพื้นฐาน มีความสำคัญต่อประเทศที่เตรียมตัวจะก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก และในอนาคต จะออกประกาศเพิ่มเติมให้การขนส่งทางท่อ ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ เข้ามจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคม รวมถึงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้แก่ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ได้แสดงความสนใจในการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน