(เพิ่มเติม) KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่-ตั้ง"ปรีดี ดาวฉาย-ธีรนันท์ ศรีหงส์" นั่งเอ็มดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 28, 2013 17:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของธนาคารเห็นชอบแต่งตั้งนายปรีดี ดาวฉาย และนายธีรนันท์ ศรีหงส์ ดำรงตำแหน่งกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.56

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (KBANK) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเมื่อวันที่ 31 ม.ค.56 ได้มีการปรับเปลี่ยนข้อบังคับของธนาคารใหม่ โดยกำหนดให้กรรมการของธนาคาร ต้องมีอายุไม่เกิน 72 ปี จากเดิมที่ไม่มีกติกาเรื่องนี้ ทำให้มีกรรมการต้องพ้นจากตำแหน่ง 5 คน ประกอบด้วย นายบรรยงค์ ล่ำซำ, พล.ต.อ.เภา สารสิน, นายศุกรีย์ แก้วเจริญ, นางเอลิซาเบธ แซม และ นายฮิโรชิ โอตะ

ทั้งนี้คณะกรรมการธนาคาร ได้มีการตั้งกรรมการแทนทันทีก่อน 3 คน คือ นายกฤษฎา ล่ำซำ, นายธีรนันท์ ศรีหงส์ และนายปรีดี ดาวฉาย โดยได้รับควาเมห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แล้ว และจะมีกาแต่งตั้งเพิ่มอีก 3 คน โดยต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ประกอบด้วยนายสมเกียรติ ศิริชาติไชย, นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ และ นายกลินทร์ สารสิน

นายบัณฑูร กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารวันนี้ ได้มีการแต่งตั้งตนเป็นประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แต่งตั้งนายกฤษฎา ล่ำซำ เป็นรองประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการกำกับกิจการ, นายสมชาย บุลสุข เป็นรองประธานกรรมการ และ ประธานคณะกรรมการทรัพยากรบุคคลและกำหนดค่าตอบแทน และหัวหน้าคณะกรรมการอิสระ นายสมเกียรติ ศิริชาติไชย เป็นกรรมการและประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงองค์กร และแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการ 2 คน

นอกจากนี้ ได้มองแนวทางการทำงานของกลุ่ม เคแบงก์ และเมืองไทยประกันชีวิต เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงการทำงาน สร้างโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้น จึงได้แต่งตั้งให้นายกฤษฎา ล่ำซำ เข้ารับตำแหน่ง รองประธานกรรมการในเมืองไทยกรุ๊ป โฮลดิ้ง และนายสมเกียรติ ศิริชาติไชย เป็นกรรมการบริหารความเสี่ยงในเมืองไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งด้วย

"เป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ทั้งธนาคารและเมืองไทยประกันชีวิต เพื่อเตรียมตัวรับมือความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจที่มาพร้อมกับตลาดโลก... ที่แต่งตั้งเอ็มดี 2 คน เนื่องจากเห็นว่ามีงานที่เยอะขึ้น ก็ต้องตั้งคนมาช่วยกันทำงาน" นายบัณฑูร กล่าว

ทั้งนี้การปรับโครงสร้างดังกล่าว เพื่อให้เกิดความร่วมมือในด้านยุทธศาสตทั้งของธนาคารและเมืองไทยประกันชีวิต สร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้มีมากขึ้นจากตลาดที่กว้างขึ้น เพื่อให้ 2 องค์กรเติบโตได้ดีและแข็งแกร่ง ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่ได้ให้ความสำคัญกับประกันชีวิตมากนัก เนื่องจากมีการเติบโตไม่มาก แต่ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป สะท้อนได้จากธุรกิจประกันชีวิตมีการเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายบัณฑูร กล่าวว่า สำหรับธนาคารปีนี้ตั้งเป้าสินเชื่อโต 10% จากการทิศทางเศรษฐกิจปีนี้ที่โต 5% จึงถือเป็นการเติบโตไม่ได้เร่งตัวหรือช้าเกินไป ขณะที่มองโจทย์ทางธุรกิจขณะนี้มีความเสี่ยงมาก มีความผันผวนเกิดขึ้นตลอดเวลาทั้งด้านการเมือง การค้า การไหลเข้า-ออกของเงินทุนเคลื่อนย้ายทำให้สถานการณ์โลกคาดเดาได้ยากกว่าเดิม เพราะมีความเสี่ยงมากขึ้น

สำหรับปัญหาฟองสบู่ มองว่า ราคาสินทรัพยที่ปรับเพิ่มขึ้นถือเป็นปกติตามดีมานด์-ซัพพลาย แต่ที่น่ากังวลมากกว่าคือการกู้เงินเข้าซื้อสินทรัพย์ เพระหากไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริง แต่เป็นการกู้เงินจากระบบ ซึ่งมาจากเงินออม เพื่อเข้าซื้อหุ้น ซื้อที่ดินอาจนำไปสู่ปัญหาของระบบการออม จึงเป็นเรื่องที่ธปท.ต้องจับตามอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ