ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1% ปิดที่ 289.94 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3723.00 จุด บวก 31.51 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 7741.70 จุด บวก 65.87 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6360.81 จุด บวก 34.93 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีซึ่งส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางจะยังไม่คุมเข้มนโยบายการเงินในเร็วๆนี้ เนื่องจากคาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 2% ในปีหน้า
นายดรากิกล่าวว่า แม้สถานการณ์ในตลาดการเงินปรับตัวดีขึ้น แต่เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงอ่อนแอ ซึ่งการใช้นโยบายการเชิงแบบผ่อนคลายของอีซีบีจะช่วยผลักดันให้เกิดการฟื้นตัวทีละน้อยในปีนี้
ที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรปได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% และขยายวงเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำให้ธนาคารต่างๆกว่า 1 ล้านล้านยูโร (1.3 ล้านล้านดอลลาร์) รวมทั้งให้คำมั่นว่าจะซื้อพันธบัตรของประเทศที่มีปัญหาหนี้ หากประเทศเหล่านี้ตกลงที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังขานรับนายเบอร์นันเก้ ประธานเฟดซึ่งกล่าวต่อสภาคองเกรสว่า ขณะที่อัตราว่างงานในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง เฟดจำเป็นต้องดำเนินมาตรการหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ประธานเฟดกล่าวว่า ในบรรยากาศทางเศรษฐกิจปัจจุบัน ประโยชน์ของแผนการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ของเฟดกำลังช่วยหนุนการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปัจจุบันต่อไป โดยเฟดได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) มูลค่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละเดือน เพื่อฉุดต้นทุนการกู้ยืมระยะยาวและกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นมา
หุ้นเบเยอร์ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.1 หมื่นล้านยูโร ขณะที่หุ้นเทเลโฟนิก้า ปรับตัวขึ้น 20 เซนต์ แตะที่ 10 ยูโร หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ปรับตัวขึ้น 0.9% หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปรับตัวขึ้นกว่า 1%