บรรยากาศการซื้อขายถูกปกคลุมด้วยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับขอบเขตความเสียหายทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นจากมาตรการปรับลดงบรายจ่ายโดยอัตโนมัติของรัฐบาลกลางสหรัฐที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนและนักสังเกตการณ์ในตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าตลาดจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดต่อไป
ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวลงในช่วงท้ายของการซื้อขายวานนี้ ภายหลังแผนการของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันเพื่อแก้ไขปัญหางบประมาณได้ถูกปฎิเสธจากวุฒิสภาสหรัฐ
ทั้งสองพรรคประสบความล้มเหลวในการหาทางออกร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดลดงบประมาณแบบอัตโนมัติกว่า 85 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อตัวแทนจากพรรคเดโมเครตเรียกร้องให้มีการขึ้นภาษีกับคนรวย ขณะที่ทางพรรครีพับลีกันคัดค้านการเก็บภาษีเพิ่ม ส่งผลให้ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ต้องหามาตรการใหม่จัดการกับแผนตัดลดงบประมาณดังล่าว โดยปธน.โอบามาจะเข้าพบกับสมาชิกระดับสูงของสภาคองเกรสในวันนี้เพื่อรือถึงทางออกอีกครั้ง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนม.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ. และดัชนีภาคการผลิตโดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
หุ้นกรุ๊ปปอนพุ่ง 4.4% หลังจากที่บริษัทประกาศปลดซีอีโอ ขณะที่หุ้นพาโล อัลโต ร่วง 2% จากคาดการณ์รายได้ที่น่าผิดหวัง